• Nana Coffee Roasters คาเฟ่กาแฟลับ ซ่อนตัวในเยาวราช

    ใครจะไปรู้ว่าในร้านดอกไม้ย่านเยาวราชจะมีร้านกาแฟชิคๆคูลๆอย่าง "Nana Coffee Roaster " ซ่อนอยู่!!! แม้ด้านหน้าร้านจะเป็นร้านดอกไม้แต่เพราะความชิคความคูลของ Nana Coffee Roasters ก็ทำให้ได้รับความนิยมจนคนแน่นร้านแทบทุกวัน แถมกาแฟที่ร้านก็ไม่ธรรมดาการันตีด้วยรางวัล 'Signature Drink Awards 2016'เมนูแนะนำ "La Boisson De Kanda" เมนูที่ได้รับรางวัล Signature Drink Awards 2016 (ราคา 250 บาท)"Dark Beer Cake" เค้กที่ผสมแป้งกับเบียร์ดำ (ราคา 150 บาท)"Chou Cream""New York Cheesecake"ภายในร้านยังมี Rooftop ไว้จิบกาแฟชมวิวเมือง นอกจากนี้ยังมีบาร์ชงกาแฟให้คอกาแฟได้พูดคุยกับบาริสต้าอีกด้วย

  • Forest Bake ดินแดนขนมอบสไตล์โฮมเมด

    จากสูตรขนมอบในบ้านกลายเป็นร้านสไตล์โฮมเมดอย่าง "Forest Bake" ร้านเบเกอรี่น่ารักๆอบอวลไปด้วยกลิ่นขนมอบท่ามกลางบรรยากาศป่าเขาเหมือนในเทพนิยาย ที่หอมกลิ่นขนมอบขนาดนี้เป็นเพราะครัวอยู่ด้านหลังร้านนั่นเอง อบเสร็จใหม่ๆหอมๆก็ออกมาวางขายที่หน้าร้านเลยคุณลิน-นลินา เจ้าของร้านก็เป็นถึง Food Stylist การรันตีเรื่องความสวยงามและความอร่อยก็ไม่แพ้กัน จากสูตรขนมอบฝีมือคุณป้าและคุณแม่เค้กที่นี่ไม่ใช่แค่สวยเท่านั้น แต่ได้รับการใส่ใจในทุกรายละเอียด ทั้งวัตถุดิบ รสชาติ และหน้าตาของอาหาร"Multigraing Loaf" ขนมปังธัญพืช มีทั้งงาดำ ข้าวบาร์เล่ย์ และธัญพืชอื่นๆอีกมากมาย ทานคู่กับ "Strawberry & Peach Jam" แยมสตรอเบอรี่ผสมพีชโฮมเมด หอม หวาน"Custard Cake Set" คัสตาร์ดเสิร์ฟพร้อมผลไม้ตามฤดูกาล ทานคู่กับไอศกรีมเชอร์เบทอัญชันมะนาว"Sticky Bun" ขนมปังท็อปด้วยคาราเมลโรยถั่ว"Fox Tales Carrot Cake" เค้กแครอทผสมครีมชีส ด้านบนมีผลไม้อบแห้ง

  • ให้ทุกวันคือการพักผ่อน Vacation Bangkok

    "Vacation Bangkok" เกิดขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์ที่อยากให้ทุกคนมองเรื่องการพักผ่อนเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น และอยากให้ทุกวันที่มีกลายป็นวันหยุดของเราที่นี่จึงเป็นทั้งที่พัก มีพื้นที่ให้ได้นั่งทำงาน มีคาเฟ่ให้ทานของอร่อยๆและได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ เพราะอยากให้ทุกคนที่มาที่นี่ได้รู้สึกว่าทุกวันของเขาจะเป็นวันหยุดพักผ่อนนั่นเองเริ่มเมนูแรกด้วยเมนูสุดฮิตของทางร้าน "Fresh Mint Americano" เพิ่มความแตกต่างและความสดชื่นให้กับคออเมริกาโน่ด้วยมินต์ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น"Piccolo Rose" คล้ายๆลาเต้แต่นมน้อยกว่า และมีกลิ่นหอมของกุหลาบ โรยหน้าด้วยกุหลาบแห้งบด"Raspberry Fall""Caesar Salad" หรือซีซาร์สลัดที่ใส่มาในแป้งพาย รูปแบบการจัดจานครีเอทสุดๆ"Pork Ball Brioche" พอร์คบอล เนื้อหมูฉ่ำๆกับเชดด้าชีส ทานคู่กับขนมปังบริยอช

  • Seoulcial Club คาเฟ่ใหม่ใจกลางสยาม

    ใครที่กำลังมองหาคาเฟ่เก๋ๆ ถ่ายรูปสวย ขนมอร่อย ที่สายเกาหลีต้องชอบ "Seoulcial Club" คาเฟ่เกาหลีสุดฟรุ้งฟริ้งใจกลางสยามสแควร์ รับรองว่าถูกใจสายเกาหลีชาวไทยแน่นอน บรรยากาศก็ดี มุมถ่ายรูปก็เพียบ จะถ่ายรูปชิคๆ คูลๆก็ได้แบบสบายๆนอกจากสายเกาหลีที่ห้ามพลาดแล้วคอกาแฟก็ห้ามพลาดเช่นกัน เพราะทางร้านถึงขั้นสั่งทำเครื่องกาแฟยี่ห้อ Mavam สีทองจากเมืองซีแอทเทิลเป็นเครื่องแรกของไทยที่คอกาแฟสาย Specialty Coffee ชั้นดีต้องห้ามพลาด"Very Dirty Coffee" เอสเพรสโซ่ช็อตผสมนม ท็อปด้วยครีมเย็นๆโรยดาร์กช็อคโกแลต"Purple Potato Milk""Strawberry Milk" นมฮอกไกโดผสมซอสสตรอเบอรี่โฮมเมด"Chocolate Marshmallow" ด้านล่างเป็นดาร์คช็อคโกแลตเข้มข้น ท็อปด้วยมาร์ชเมลโล่ที่ไม่หวานมาก เป็นความหวานและขมที่เข้ากันอย่างลงตัว"24K Magic" กาแฟคาปูชิโน่ แปะด้วยทอง 24K ที่ทานได้ ดูหรูหรา ไฮโซมากๆ"Pink Croissant" ไส้ด้านในเป็นราสเบอร์รี่ผสมสตรอเบอร์รี่"Chocolate Mascarpone Cake""Fresh Strawberry Cheese Pie"เมนูขนมหวานของที่นี่นอกจากหน้าดีแล้วยังรสชาติดีเกินคาด ใครมาสยามอย่าลืมแวะมาร้าน "Seoulcial Club" ที่สยามซอย 3 กันนะคะ

  • Mali Cakery ครัวขนมอบสุดน่ารัก

    "Mali Cakery" คาเฟ่น่ารักๆสุดฮอตที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของขนมอบ แม้ร้านจะเพิ่งเปิดได้ไม่นานแต่เค้กที่นี่น่ารักและอร่อยละมุนลิ้นทุกเมนูจนกลายเป็นร้านสุดฮิตร้านหนึ่งในขอนแก่นตอนนี้ ร้านอยู่ในซอยมิตรภาพ 15 อำเภอเมืองขอนแก่น แค่ด้านหน้าร้านก็ดูน่ารักอบอุ่น บรรยากาศภายในร้านก็สบายๆให้อารมณ์เหมือนมานั่งเล่นอยู่บ้านเพื่อนภายในร้านมีมุมน่ารักๆให้ถ่ายรูปเพียบเมนูเค้กของที่ร้านน่าทานมากๆ แต่บางตัวไม่ได้มีขายตลอดจะถูกเปลี่ยนตามวัตถุดิบที่ได้มา ทางร้านเน้นใช้วัตถุดิบดีมีคุณภาพ ไม่ใส่สารกันเสีย"Chocolate Mousse Cake" (115 บาท)"Berry Cheese Pie" (89 บาท) ผลไม้สีสันสดใส รวมทั้งสตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ด้านล่างเป็นแครกเกอร์ผสมอัลมอนด์ท็อปด้วยครีมชีส"Almond Tart" "ทาร์ตลิ้นจี่กุหลาบ" (125 บาท) แป้งทาร์ตจะหอม รสชาติหวาน หอม เปรี้ยวนิดๆ เข้ากันกำลังดี"ชาเอิร์ลเกรย์ลิ้นจี่โซดา"นอกจากร้านจะน่ารักแล้ว เค้กก็ยังน่ารักไม่แพ้กัน ถ้าใครอยากจะลองเค้กหลายๆแบบพาเพื่อน พี่ แฟนไปกันเยอะๆ แบ่งความฟินให้ทั่วถึงกัน ใครมาขอนแก่นก็อย่าลืมมาแวะ เช็คอิน ถ่ายรูปคู่กับเค้กสวยๆที่นี่กันนะ

  • จิบกาแฟดูงานศิลป์ที่ Craftsman x บ้านอาจารย์ฝรั่ง

    "Craftsman Roastery" คาเฟ่ชิคๆที่มาเปิดสาขาใหม่ใน "บ้านอาจารย์ฝรั่ง" อาคารเก่าสีเหลืองสดใสอยู่ใกล้กับสะพานซังฮี้เป็นบ้านหลังแรกของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี ในปัจจุบันคงสภาพเดิมของตัวอาคารไว้ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 และด้านนอกยังตกแต่งด้วยสวนสีเขียวขนาดย่อมๆอีกด้วย ภายในอาคารยังมีแกลอรี่อาร์ตให้ชมงานศิลป์สวยๆ และในตลอดเดือนกันยายนนี้ซึ่งเป็นเดือนเกิดของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี มีจัดแสดงแกลอรี่เพื่อรำลึกถึงอาจารย์ตลอดทั้งเดือนอีกด้วย "อาจารย์ศิลป์ พีระศรี" ถือเป็นชาวต่างชาติผู้เปิดโลกวงการศิลปะเมืองไทยและผู้ก่อตั้งโรงเรียนประณีตศิลปกรรมหรือมหาวิทยาลัยศิลปากรในปัจจุบันขึ้น เรียกไดว่าใครเป็นศิษย์มหาวิทยาศิลปากรต้องรู้จักท่านแน่นอน"Craftsmanxบ้านอาจารย์ฝรั่ง" เกิดจากศิษย์เก่าชาวศิลปากรได้ชักชวน "คุณแวว เนตรนภา นราธัศจรรย์" มาทำโปรเจคคาเฟ่ร่วมกับแกลอรี่อาร์ตที่บ้านอาจารย์ฝรั่งแห่งนี้ จึงได้ปรับเปลี่ยนให้ชั้น 1 ของบ้านเป็นคาเฟ่ ส่วนชั้น 2 จะเป็นสถานที่จัดแสดงงานนิทรรศการ และพิพิธภัณฑ์ของอาจารย์ศิลป์ พีระศรี"Piccola" ใช้เมล็ดกาแฟห้วยห้าจากแม่ฮ่องสอนมาเบลนด์กับเมล็ดกาแฟจากเอธิโอเปียและอเมริกากลาง มีกลิ่นที่หอมไม่เหมือนใคร"Iced Lemongrass Latte" เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่นำเมล็ดกาแฟมาเบลนด์ระหว่างอินโดนีเซีย บราซิล และลาว ผสมกับไซรัปตะไคร้และกลิ่นโป๊ยกั๊ก จนได้ทั้งกลิ่นกาแฟและกลิ่นหอมของตะไคร้อบอวลอยู่ในปาก"Sparking Tamarind For Baan Ajarn Farang" แก้วนี้พิเศษสุดๆเพราะได้แรงบันดาลใจมาจากการที่อาจารย์ศิลป์ พีระศรี ชื่นชอบการดื่มน้ำมะขาม ทางร้านจึงคิดเมนูเก๋ๆที่มีส่วนประกอบของมะขามขึ้นมา"Scone" ทานคู่กับแยมมะขามผสมแครนเบอรี่ ให้รสชาติแปลกใหม่ที่ลงตัว"Banana Bread" "Flour Less Chocolate Cake" เค้กช็อคโกแลตที่ไม่ได้ใส่แป้ง เป็นช็อคโกแลตล้วน ทานคู่กับวิปครีมและผลไม้"Earl Grey Cake" แวะมาจิบกาแฟ นั่งชมงานศิลป์กันได้ที่ "Craftsman x บ้านอาจารย์ฝรั่ง" บอกเลยว่าทั้งศิษย์เก่าศิลปากรและคนรักงานศิลป์ห้ามพลาด

  • ณ เวลาพาเพลิน เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาแห่งความสุข

    ตามมาสำรวจคาเฟ่ใน ซ.บางขุนนนท์4 ที่ร้าน ณ เวลาพาเพลิน ร่มรื่นไปด้วยดอกไม้นานาชนิด ให้ความรู้สึกสดชื่นตั้งแต่เข้ามาในร้าน มีเมนูอาหารมากมายให้เลือกทั้งคาวและหวาน คัดมาเน้นๆได้คุณภาพโดยเฉพาะเมนูขนมหวานเด็ดทุกตัวจริงๆ"Berry Bliss Cheesecake" เจแปนนิสชีสเค้ก อมเปรี้ยวด้วยไส้เบอร์รี่รวม 5 ชนิด "Merry Lemon""Flourless Dome" เค้กไร้แป้ง ฐานทำจากอัลมอนด์ พิสตาชีโอ และเฮเซลนัทบดใช้แทนแแป้ง ด้านในเป็นช็อคโกแลตมูส ไส้ในสุดเป็นคาราเมลหวานน้อย "Tropical Choco Cake" มูสมะม่วง กับ มูสเสาวรส ตัดหวานด้วยมิลค์ช็อคโกแลต "Siamese Smile" ม็อกเทลสูตรของทางร้าน มีทั้งขิง ตะไคร้ เลมอน และมะนาว "Summer Americano" ผสมระหว่างน้ำผลไม้สดกับอเมริกาโน่ นอกจากนี้คาเฟ่แห่งนี้ยังเป็นที่พักเก๋ๆที่เกิดจากความใฝ่ฝันของเจ้าของร้านที่อยากจะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกโดยที่เราเป็นเจ้าบ้านและให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนไทยจริงๆใครอยากจะมานั่งชิลๆ เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาดีๆมาได้ที่ ณ เวลาพาเพลิน

  • เจิดจรัสไปกับคาเฟ่สไตล์วินเทจ Disjarus Craft and Cafe

    ช่วงวันหยุดใครยังไม่มีแพลนทำอะไรก็มาเดินเล่นแถวช่างชุ่ยแล้วแวะคาเฟ่น้องใหม่อย่าง "Disjarus Craft and Cafe" คาเฟ่สไตล์วินเทจ ของวินเทจทั้งหลายภายในร้านเกิดจากความชื่นชอบของคุณก้อง เจ้าของร้านที่ออกเดินทางไปทำงานต่างประเทศอยู่บ่อยๆ จึงเริ่มสะสมของสไตล์วินเทจจากชิ้นเล็กๆจนกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ จนนำมาสู่การตกแต่งร้านที่เป็นสไตล์วินเทจไปจนถึงจานชามและอาหารเลยทีเดียว พอเข้าไปภายในร้านต้องขอชื่นชมกับหมู่มวลดอกไม้ที่อยู่ภายในร้านและกลิ่นอายความเป็นวินเทจที่อบอวลอยู่ทั่วร้านเมนูเด็ด "Lady Citron" เค้กส้ม "Thursday" น้ำส้มผสมเลมอนและน้ำผึ้ง "Disjarus Black Rose" กาแฟที่หอมกลิ่นกุหลาบคล้ายกับสปาร์คกลิ้ง "Bacon Scones" เนื้อสโคนผสมเบคอนแล้วยังท็อปด้วยเนื้อเบคอนทานคู่กับครีมชีส เป็นส่วนผสมอาหารคาวหวานที่บงตัวจริงๆ "Madelines"

  • A10 Cafe & Co Working Space ห้องรับแขกที่ปลอมตัวเป็นร้านกาแฟ

    "A10 Cafe & Co Working Space" คาเฟ่เปิดใหม่ของพิธีกรชื่อดังและอดีตพิธีกรเปรี้ยวปาก น้าเน็ก นั่นเอง!!! บริเวณชั้นล่างเป็นคาเฟ่ มีทั้งกาแฟ เครื่องดื่ม และเค้ก ส่วนบริเวณชั้น 2 เป็นยังมี Co-Working Space อีกด้วย จะมาประชุม นัดคุยงาน หรือติวหนังสือก็ดี ทางร้านมีหลากหลายเมนูที่คัดสรรมาแล้วสำหรับทุกคน"Orange Cake" "Tiramisu Cake""Strawberry Pastry Cream Tart""Latte On The Rock"  และมาเจอน้าเน็กทั้งทีก็ต้องนึกถึง "เนื้อทอดเทวดา" ตามคอนเซ็ปต์ "ไม่อร่อยให้เตะ" เนื้อทอดไร้น้ำมัน หยิบมัน กินเพลิน

  • ณ วังบูรพา คาเฟ่ คาเฟ่สไตล์วินเทจ รับรองโดนใจสายถ่ายรูป

    "ณ วังบูรพา คาเฟ่" คาเฟ่สไตล์วินเทจที่ใครชอบถ่ายรูปก็ต้องได้รูปเป็นเซ็ทกลับไปด้วยแน่ๆ แม้ร้านจะเป็นร้านเล็กๆเพียงคูหาเดียวแต่การตกแต่งร้านสไตล์วินเทจทำให้คนที่เข้ามาภายในร้านทั้งสบายและรู้สึกอบอุ่น เรียกได้ว่า จิ๋วแต่แจ๋ว ของจริงเมนูเด็ด "พัดพารัดชา" ห่อหมกทอด เนื้อหนึบหนับ รสชาติกำลังดี "หมูชาบูผัดพริกเผา" ใช้หมูสไลด์ชาบูบางๆผัดกับพริกเผาสูตรเผ็ดร้อน "กุ้งทอดซอสโบราณ" "บูรพาลาเต้" "Queen Elizabeth Cake" เค้กมะตูมสูตรเด็ดที่เคยทำถวายควีนอลิซาเบธที่ 2

  • THINK Cafe คาเฟ่น่ารักๆเอาใจสายหวาน

    ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนมาหาคาเฟ่นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆคลายร้อนกันดีกว่า วันนี้เปรี้ยวปากเลยจะพาไปร้าน "THINK Cafe" คาเฟ่คิ้วท์ๆ บรรยากาศดีในย่านราชพฤกษ์ ไม่ว่าจะเป็นเมนูขนมหวานหรือเครื่องดื่มก็หน้าตาน่ารักจนห้ามใจยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปไม่ได้จริงๆ ร้านนี้ตั้งอยู่ในโครงการ The Bloc ริมถนนราชพฤกษ์ แต่ละร้านภายในโครงการตกแต่งในสไตล์ Industrial Minimal ด้วยตู้คอนเทนเนอร์ บอกเลยว่าทุกมุมของโครงการฮิปสุดๆ ใครอยากแวะมาถ่ายรูปรับรองได้รูปกลับไปเพียบร้าน THINK Cafe ตกแต่งด้วยโทนสีขาว เทา และเก้าอี้ไม้ ตัดด้วยสีเขียวของต้นไม้เล็กๆบนโต๊ะยิ่งทำให้ดูสบายตา รอบๆร้านเน้นใช้กระจกใสทำให้ร้านดูโปร่งโล่งสบายและเห็นบรรยากาศภายนอก เพดานของร้านยังมีกิมมิคเก๋ๆคือ ท่อตรงเพดานร้านที่ต่อตรงยาวไปจนถึงกลางร้านเป็นคำว่า THINK CAFEร้าน THINK Cafe มีทั้งกาแฟ ของหวาน และเครื่องดื่มน่ารักๆมากมาย เริ่มกันด้วยเมนู "Bunny Strawberry Milk" นมชมพูท็อปด้วยครีมสดและคุกกี้บันนี่"Green Tea Tart" ไส้คัสตาร์ดชาเขียว ด้านนอกเป็นทาร์ตช็อคโกแลต ด้านบนทำเป็นหญ้าสีเขียว"Panda Cake" เค้กวานิลลาไส้สตรอเบอร์รี่ลาวาสุดน่ารัก มาพร้อมพานาคอตต้า ไอศกรีมวานิลลาและสตรอเบอร์รี่สด"Mr.Coco" เค้กมะพร้าวอ่อนครีมสดเนื้อเนียนนุ่ม"Hot Chocolate Mellow"

  • Cafe Tropicana คาเฟ่สไตล์ทรอปิคอล มุมไหนก็ถ่ายรูปสวย

    วันนี้เปรี้ยวปากขอเอาใจสาวๆด้วยร้าน "Cafe Tropicana" คาเฟ่สไตล์ทรอปิคอลของนักร้องเสียงเพราะอย่าง “คุณบุรินทร์” ภายในร้านตกตกแต่งสไตล์ทรอปิคอลแค่ก้าวเข้าไปในร้านก็รู้สึกอบอุ่น สบายตา จะมานั่งชิลหรือคุยงานก็เป็นไอเดียที่ดี และที่สำคัญมุมถ่ายรูปเพียบ! สาวๆไม่ต้องห่วงออกจากร้านไปได้รูปกลับไปเป็นอัลบั้มแน่นอน ไม่ใช่แค่มุมถ่ายรูปสวยอย่างเดียวอาหารก็อร่อยและหลากหลายมาก มาดูกันเลยว่ามีเมนูเด็ดๆอะไรบ้างเมนูขายดีอันดับ 1 ของร้าน คือ "มัสมั่นน่องไก่กงฟี" เป็นเมนูที่ร้านคิดขึ้นเองโดยนำไก่ไปหมักเครื่องเทศและนำไปตุ๋นเกือบ 2 ชม. แล้วทอดจนกรอบ ทานกับน้ำมัสมั่นสูตรพิเศษ เสิร์ฟพร้อมข้าวอัญชันต่อด้วยเมนู "ข้าวผัดแหนมกากหมูไข่เจียวฟู" เครื่องแน่นจัดเต็มจนเป็นเมนูขายดีอันดับ 2 แหนมที่ใช้เป็นแหนมทำเองปลอดสารกันบูด หอมกลมกล่อมกำลังดี จัดเต็มสุดอลังการด้วย "Chocolate Indulgent Frappe" ดาร์กช็อกโกแลตปั่น เข้มข้นลงตัว เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมกับบราวนี่"เมี่ยงส้มโอ" เสิร์ฟพร้อมดอกบัว คลายร้อนแบบฟินๆด้วยเมนู "ครัวซองต์แซนด์วิชไอศกรีม" ที่โรยทั้งอัลมอนด์ บลูเบอร์รี่ และเมเปิ้ลไซรัป"Blue Moon"

  • หนีลมร้อน แบบชิคๆ ที่ Salt Lake De Maeklong #ซอลท์เลคเดอแม่กลอง

    เขาว่าไปทะเลไม่หลบร้อนก็หนีรัก แต่ถ้าอยากชิคๆ สักพัก  🌴 ☃ ต้องไปนาเกลือ หนีลมร้อน มานั่งพัก แบบชิคๆ ที่ #ซอลท์เลคเดอแม่กลอง Salt Lake De Maeklong คาเฟ่สุดคูลๆ ของคนชิคๆ จิบกาแฟชมวิว ในห้องกระจกใสสบายตา เห็นวิวเต็มตา แถมแอร์เย็น ฉ่ำ โซนชั้นล่างเปิดโปร่งโล่งสบาย ลมพัดตึง 🍃 ท่ามกลางบรรยากาศนาเกลือแถมมีกังหันมาเสริม เพิ่มบรรยากาศคันทรี่สุดๆ ไปเลยเครื่องดื่มเด็ดๆ ก็มี กาแฟนาเกลือ ที่ใส่ดอกเกลือลงไปด้วย ทำให้อร่อยกลมกล่อมไม่เหมือนใคร สายนมต้องเจอนี่เลยจ้า นมสาวนาเกลือมีให้เลือกทั้ง Cup A , B , C 🍼 สิบปากว่าไม่เท่าชิมเองนะจ๊ะ ไปลองได้ที่ #ซอลท์เลคเดแม่กลอง จ้า มีอ่างสปาเท้าพร้อมเกลือสปาไว้ให้บริการด้วยจ้าแช่เท้าไป ตากลมชมวิวไป โอ๊ย...ชิลล์ขนาดนี้ ถ้าไม่ไปหนูไหวเหรอ

  • Cafe La Rose คาเฟ่ดอกไม้ใจกลางเมือง

    "Cafe La Rose" คาเฟ่ดอกไม้แห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพ คาเฟ่กุหลาบที่ตกแต่งด้วยดอกไม้นับพันดอกเน้นโทนสีชมพูหวานๆ บรรยากาศดีแบบนี้สาวๆที่มาต้องถูกใจกันอย่างแน่นอน และไม่ใช่แค่ดอกไม้ยังมีเมนูชิคๆมากมาย ทั้งของคาว-ของหวานที่ล้วนมีแต่กุหลาบเป็นส่วนประกอบ Recommended Menu"Miang Kham Lotus" เมี่ยงคำดอกบัว ใช้ดอกบัวแทนใบเมี่ยงจะมีความขมน้อยกว่าจึงทานค่อนข้างง่าย "Enchanted Double Rose Waffle" วาฟเฟิลไข่สูตรฮ่องกง เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมกุหลาบ 2 ลูกและผลไม้ "Crab Fried Rice" ข้าวผัดปู"Bou-Loy Waffle" วาฟเฟิลฮ่องกงราดด้วยซอสน้ำตาลโตนดหอมๆ แล้วท็อปด้วยบัวลอยไซส์บิ๊กๆ สาวๆคนไหนอยากมาถ่ายภาพคู่ดอกไม้สวยๆและทานอาหารอร่อยๆ มากันได้ที่ร้าน "Cafe La Rose" ซอยพิบูลวัฒนา 10 ถนนพหลโยธิน หรือลง BTS อารีย์ ต่อวินมอเตอร์ไซค์มาที่ร้าน เปิดตั้งแต่เวลา 11:00-22:00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) โทร.09-9198-2571

  • Haus of KANOM คาเฟ่พาสเทลสีสดใสกับทาร์ตไข่หอมๆ

    "Haus of KANOM" โฉมใหม่ของร้าน KANOM กับโซนคาเฟ่คิ้วท์ๆหวานๆ โดยเฉพาะมุมหน้าร้านต้องห้ามพลาดถ่ายรูปเก็บเอาไว้ อาหารก็มีครบหมดทั้งคาวและหวาน โดยเฉพาะเมนูซิกเนเจอร์อย่าง "ทาร์ตไข่"Recommended Menu "ทาร์ตไข่" ซิกเนเจอร์ของทางร้าน ทำสดใหม่ทุกวัน "โจ๊กฮ่องกงไข่ออนเซ็นปาท่องโก๋ยักษ์""ปาท่องโก๋ยักษ์" มาพร้อมดิปหลากหลายให้เลือก "ปอเปี๊ยะคุณยาย""ขนมผักกาดกุ้งสด"ใครอยากมาชิมทาร์ตไข่สูตรเด็ดต้องมากันที่ร้าน "Haus of KANOM" ซอยสุขุมวิท49 เยื้อง รพ.สมิติเวช เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 07:00-18:00 น. เบอร์โทร.0-2252-8520

  • MATAPITA x TheHen นั่งจิบชาทานขนมเค้กริมหาดแบบชิลๆ

    เปรี้ยวปากบุกมาถึงหัวหินจะพาทุกคนมานั่งจิบชา ทานขนมเค้กริมชายหาดหัวหินที่ร้าน "MATAPITA x TheHen" ร้านชาและเค้กโฮมเมดเล็กๆตกแต่งสไตล์วินเทจ เป็นโปรเจคที่ทำร่วมกับโรงแรม The Hen บ้านพักตากอากาศร่วมสมัยให้กลิ่นอายบรรยากาศหัวหินยุคแรกๆในสไตล์วินเทจด้วยสีขาวสะอาดตาร้าน "MATAPITA x TheHen"  ตั้งอยู่ในโรงแรม The Hen ซอยหัวหิน 51 เป็นโรงแรมติดชายทะเล เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน มีความเป็นส่วนตัว ใครอยากพักผ่อนขอแนะนำให้มาเดินชิลรับลมทะเลซึมซับบรรยากาศของร้านและความสวยงามของโรงแรมถือเป็นการชาร์ตแบตร่างกายได้ดีเลยทีเดียวส่วนเมนูเค้กก็น่ารักจนสาวๆอดใจถ่ายรูปคู่ด้วยไม่ไหวจริงๆ ไม่ใช่แค่หน้าตาที่น่ารักเท่านั้นแต่เค้กยังหอมอร่อยนุ่มละมุนลิ้นยิ่งทานคู่กับชาร้อนๆ นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเลคือฟินสุดๆเลย Recommended Menuเค้กมะตูม (170 บาท) เค้กมันหวานญี่ปุ่น (220 บาท) เค้กสิบพัน (95 บาท) ส้มแมนดารินผสมยูซุ (150 บาท) ลาเวนเดอร์เลมอน (150 บาท) ร้าน "MATAPITA x The Hen" ตั้งอยู่ในโรงแรม The Hen ถนนแนบเคหาสน์ หัวหิน เปิดตั้งแต่เวลา 13:00-20:30 น. (หยุดทุกวันอังคาร) หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 08-3634-5553

  • Memory House Cafe HuaHin ปิกนิก l ทุ่งหญ้า l อ่างเก็บน้ำ

    ใครมีแพลนไปเที่ยวหัวหินเตรียมจดลิสต์คาเฟ่สวยๆให้ไปตามรอยถ่ายรูปกันได้เลย และหนึ่งในคาเฟ่ที่เปรี้ยวปากอยากนำเสนอก็คือ "Memory House Cafe" คาเฟ่สไตล์โรงนาริมอ่างเก็บน้ำเขาเต่า การตกแต่งร้านเรียบหรู เน้นโทนสีขาว ตัดกับลานดอกไม้และทุ่งหญ้าฟุ้งๆบรรยากาศเหมือนอยู่เมืองนอกถ่ายรูปออกมาแล้วสวย ชิค คูลสุดๆ รับรองสาวๆจะต้องชอบโดยเฉพาะมุมสะพานไม้ที่ทอดยาวในทุ่งหญ้ากับโรงนาสีขาว เป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้กับทุกคนที่ได้มาส่วนเมนูก็มีทั้งเครื่องดื่มและเค้กให้เลือกมากมายทั้ง นมอัญชันพาสเทล, อัญชันมะนาวโซดาตามมาถ่ายรูปชิคๆ ทานเค้กอร่อยๆได้ที่ร้าน "Memory House Cafe HuaHin" ซอยหัวหิน 101 อ่างเก็บน้ำเขาเต่า เปิดตั้งแต่เวลา 10:00-19:00 น. (หยุดทุกวันพุธ) หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 09-5663-2901

  • ระเบียงกาแฟ จิบกาแฟชมวิวทุ่งนาสีเขียวขจี

    ก่อนกลับขอมาแวะจิบกาแฟสูดอากาศบริสุทธิ์กันที่ร้าน "ระเบียงกาแฟ" ร้านที่โด่งดังที่สุดร้านหนึ่งในสุโขทัย ตั้งอยู่ในบริเวณปั้มน้ำมันแต่วิวทุ่งนาสีเขียวรอบๆสวยจนเหล่าลูกค้านิยมมานั่งชิลจิบกาแฟท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย บริเวณรอบๆร้านมีทั้งกระต๊อบไม้ไผ่ กองฟาง สระน้ำ สะพานข้ามน้ำ และรูปปั้นควายให้เหล่าลูกค้าได้มาเก็บภาพบรรยากาศทุ่งนาสวยๆกลับไปเมนูของที่ร้านมีทั้งชา กาแฟ และขนมเค้กให้เลือกมากมายร้าน "ระเบียงกาแฟ" ตั้งอยู่ภายในปั้มเชลล์ ถ.สวรรคโลก-ทุ่งเสลี่ยม ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 7.00-18.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร.08-8278-0254

  • B-Story Garden คาเฟ่วินเทจสไตล์ยุโรป

    "B-Story Garden" คาเฟ่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการตกแต่งในสไตล์ยุโรปสุดคลาสสิกเต็มไปด้วยผลงานศิลปะ ของสะสม และของวินเทจมากมายจนเหมือนวังเล็กๆที่ผ่านการคัดสรรและใส่ใจในทุกรายละเอียดเป็นอย่างดี เรียกได้ว่า มุมถ่ายรูปสวยๆเพียบอย่างกับอยู่ต่างประเทศร้าน "B-Story Garden" เป็นอาคารสวยๆสไตล์ยุโรปที่แฝงไปด้วยความหรูหรา บริเวณร้านกว้างขวางมีความโปร่งโล่งด้วยเพดานทรงสูงนอกจากนี้ที่ร้านยังมีบริการทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และขนมคิ้วท์ๆมากมายให้เลือกทานกันอย่างจุใจ เติมความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง "B-Forest ชาพีช (145 บาท)" ชาพีชมิกซ์เบอร์รี่ท็อปด้วยฟองนมรูปหมีน่ารักๆ"The Ocean (390 บาท)" แซลมอนสดจากนอร์เวย์ในซอสมะเขือเทศรสกลมกล่อม เสิร์ฟมาในกระทะร้อนใครที่ชอบอาหารไทยต้องมาลองเมนู "ฉู่ฉี่ปลาแซลมอน (350 บาท)" รสชาติจัดจ้านของฉู่ฉี่เข้ากันได้ดีกับความหวานของเนื้อปลาแซลมอนสดใหม่"เค้กมะพร้าวโฮมเมด (125 บาท)"มาทานอาหารอร่อยๆพร้อมแชะภาพสวยๆกลับไปกันได้ที่ร้าน "B-Story Garden Cafe & Restaurants" ซอยประดิษฐ์มนูธรรม 23 ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-23.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-3751-1137

  • SLO Cafe คาเฟ่สำหรับคอกาแฟชิคๆย่านเอกมัย

    ในวันหยุดสบายๆหาร้านมานั่งชิลจิบกาแฟกันที่ "SLO Cafe" คาเฟ่ชิคๆสำหรับคอกาแฟที่มีกาแฟหลายสัญชาติให้เลือก ทั้งเอธิโอเปีย บราซิล โคลัมเบีย หรือแม้แต่ของไทยอย่างกาแฟจากเชียงราย ที่สำคัญร้านนี้สกัดกาแฟเองอีกด้วย คอกาแฟจะต้องมาลองกาแฟสกัดเย็นอย่าง "Cold Brew" ที่ดื่มแล้วรับรองสดชื่น นอกจาก "SLO Cafe" จะเป็นคาเฟ่ชิคๆแล้วก็ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมายอีกด้วย เช่น Workshop ร้องเพลง และ คลาสสอนดนตรี เป็นต้น"Spaghetti Alfredo Onsen (250 บาท)" สปาเกตตี้อัลเฟรโดราดครีมซอสท็อปด้วยไข่แดง "SLO Hot Wing (140 บาท)" ปีกไก่ทอดสไตล์เกาหลี "ข้าวแกงกะหรี่หมูไข่ข้น (240 บาท)""Matcha Cube (165 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่ขอเอาใจสายมัทฉะ "Cafe De Citron (160 บาท)" กาแฟเสิร์ฟกับมะนาวและน้ำผึ้ง เวลาทานให้แตะมะนาวที่ลิ้นนิดนึงแล้วจิบกาแฟตามเพื่อกระตุ้นต่อมรับรสของลิ้น "Premium Tower Fluffy Pancake (270 บาท)" เมนูขนมหวานที่ขายดีที่สุดของร้านด้วยความเด้งดึ๋งของตัวแพนเค้ก"Matcha Premium Pancake (360 บาท)" แพนเค้กชาเขียวเด้งดึ๋ง ไส้ด้านในเป็นถั่วแดงเสิร์ฟมาพร้อมไอศกรีมวานิลลาร้าน "SLO CAFE" อยู่ในซอยเอกมัย 12 ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 09.30-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2381-5291

  • ปีหนึ่ง คาเฟ่ ศาลายา (PEE NEUNG Coffee House Salaya)

    ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวใกล้กรุงเทพในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ นครปฐม ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกน่าสนใจเลยทีเดียว วันนี้เปรี้ยวปากจึงขอแนะนำคาเฟ่เปิดใหม่อย่าง "PEE NEUNG Coffee House Salaya" หรือที่หลายๆคนเรียกกันว่า "สถานีปีหนึ่ง" คาเฟ่ชิคๆริมทางรถไฟในศาลายาที่ฮอตฮิตมากในโซเชียล และไฮไลท์ของที่ร้านต้องยกให้กับน้องกวางที่จะปล่อยออกมาโชว์ตัวเพียงวันละ 2 รอบ คือ 11.00 น. และ 16.00 น. เท่านั้นตัวร้านเป็นเรือนกระจกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์มินิมอล ส่วนด้านหลังติดริมทางรถไฟที่จะมีรถไฟวิ่งผ่านเป็นระยะๆให้ได้เก็บภาพสวยๆคู่กับน้องกวางอีกด้วย นอกจากนี้ร้านยังตั้งอยู่ใกล้กับบริเวณมหาลัยจึงจัด Co-Working Space ให้เหล่านักศึกษาได้มาอ่านหนังสือกันโดยแบ่งได้ออกเป็น 3 โซน คือ โซน Open-Air, โซน Air และโซนสวน ร้านนี้นอกจากมุมถ่ายรูปสวยๆจะเยอะแล้วรสชาติอาหารก็อร่อยไม่แพ้กัน"พิซซ่าหน้าฮาวายเอี้ยนฮาร์ฟแซลมอนรมควัน (350 บาท)" เมนูไฮไลท์ของทางร้านที่ไม่ว่าโต๊ะไหนมาก็ต้องสั่งมาทาน"แซลมอนผัดพริกขี้หนูสวน (220 บาท)" "ตอติญ่าผักโขมอบชีส (300 บาท)""สปาเกตตีเส้นดำขี้เมาซีฟู้ด (180 บาท)" "Hangar Signature (85 บาท)" "Pee Nueng Signature (85 บาท)""PEE NEUNG Coffee House Salaya" ตั้งอยู่ที่ อ.ศาลายา จ.นครปฐม ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร.09-4682-1333

  • Pacamara Coffee Roasters

    Pacamara Coffee Roasters ร้านกาแฟชื่อดังเปิดอีกสาขาแล้วจ้าที่ SB Design Square CDC หลายคนคงรู้จักกับร้านนี้เพราะเขาขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพของเมล็ดกาแฟที่คั่วเอง และล่าสุดกับสาขานี้ Hilight เครื่องออกแบบหน้าลาเต้อาร์ท ให้ลูกค้าได้ออกแบบหรือเลือกลายได้เป็นลายของตัวเอง เกร๋เว่อออร์ พร้อมบรรยากาศร้านที่เน้นโทนสีน้ำตาลไม้ ดีไซน์เท่เอกลักษณ์ อบอุ่นชวนให้นั่งพัก มีมุมขั้นบันไดไว้ถ่ายรูปสวยๆ แถมบริการที่น่ารักจากพนักงานเมนูแนะนำ- Latte - Liab Duan Shakerato (150 บาท) - Truffle Dirty (150 บาท) - Litchi Fizzy Tea (120 บาท) - ลาวาครัวซองFYI : ใครอยากให้กาแฟหน้าตาเป็นลายของตัวเองแค่สั่งเมนูลาเต้ เลือกรูปที่ต้องการ แล้วบอกกับพนักงานจะมีบริการ เครื่องทำหน้ากาแฟให้ฟรีจ้า...มากินกาแฟแถมยังได้เดินดูของแต่งบ้านเพลินๆ อีกด้วยเพราะร้านอยู่ใน CDC นะเออ

  • ช้อป แชะ ชิม เชิงเกษตรกันที่ "ดูบัวคาเฟ่ (DUBUA Cafe)"

    ก่อนกลับมาแวะกินแวะเที่ยวแลนด์มาร์คของนครปฐมกันที่ "ดูบัว คาเฟ่ (DUBUA Cafe)" ในบรรยากาศทุ่งดอกบัวไม่เหมือนใคร ใช้เวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมงก็ได้มาสัมผัสบรรยากาศสวยๆแบบนี้กันแล้ว"ดูบัวคาเฟ่ (DUBUA Cafe)" นอกจากจะเป็นคาเฟ่ท่ามกลางทุ่งดอกบัวสวยๆแล้วรอบๆยังเป็นที่เที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เป็นเหมือนหมู่บ้านแสดงวิถีชีวิตของชาวนครปฐม และยังมีกิจกรรมให้ทำเพียบทั้งปั่นจักรยาน ถีบเรือ ฟาร์มสัตว์ คาเฟ่ และร้านอาหาร โดยภายในคาเฟ่ถูกแบ่งออกเป็นโซนต่างๆมากมาย"โซนโรงนา" มีสัตว์ต่างๆให้เยี่ยมชมมากมายโดยไฮไลท์ของที่นี่คือสัตว์ในฟาร์มที่ไม่ดุ และยังสามารถเข้าไปถ่ายรูปแบบใกล้ๆได้อีกด้วย"โซนร้านอาหารและคาเฟ่" มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ไว้ให้บริการ"โซนกาดบ้านควาย" เป็นเหมือน Walking Street เล็กๆที่มีผลิตภัณฑ์จากภายในชุมชนมาขาย ที่โซนนี้เปิดให้เข้าชมทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00-18.30 น.และที่สำคัญห้ามพลาดแชะภาพสวยๆบนสะพานไม้ทอดยาวข้ามบึงบัวกว้างใหญ่ที่มีบัวหลากหลายสายพันธุ์ ยิ่งใครมาช่วงเช้าที่บัวบานจะได้ภาพที่สวยสุดๆ หรือจะมาเดินเล่นชมวิวสวยๆก็ชิลไม่แพ้กันมาชิลกับคาเฟ่ใกล้กรุงได้ที่ "ดูบัวคาเฟ่ (DUBUA CAFE)" ถนนบางพระ - นราภิรมย์ อ.นครชัยศรี ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.(หยุดทุกวันจันทร์) หรือติดต่อสอบถาม โทร. 09-7024-0842

  • อบอวลหมู่มวลดอกไม้ Boonta Flowers and Cafe

    คาเฟ่น้องใหม่ที่เอาใจสายหวานด้วยความหอมละมุนของหมู่มวลดอกไม้ที่ร้าน "Boonta Flowers and Cafe"  กับหลากหลายเมนูอาหารทั้งคาวหวาน มาเลือกช้อปดอกไม้ หรือทำกิจกรรมเวิร์คช้อปก็ยังได้อีกจุดเริ่มต้นของร้านนี้มาจากดอกไม้ โครงสร้างของร้านจึงถูกออกแบบให้เป็นโรงเรือนสีขาวสะอาดตา ประดับด้วยดอกไม้สดทั่วคาเฟ่ โดยทางร้านจะจัดดอกไม้แตกต่างไปตามเดือนและเทศกาล อย่างเดือนธันวาคม-มกราคม ตรงกับเทศกาลปีใหม่การตกแต่งก็จะมีสีสันสดใส แนวคริสต์มาส เดือนกุมภาพันธ์ช่วงวาเลนไทน์ก็จะมีธีมหวานๆ สามารถติดตามธีมต่างๆ ได้ทางเฟสบุ๊คของทางร้านเลย (https://www.facebook.com/boontaflowersandcafe/)"Nutella Banana Horlicks (200 บาท)" เค้กกล้วยหอมที่เคลือบด้วยนูเทลล่าเข้มข้น ทานคู่กับไอศกรีมโฮมเมด ท็อปมาบนครัมเบิ้ล เสิร์ฟพร้อมกล้วยหอมคาราเมลโรยเกล็ดน้ำตาล"Red Velvet (250 บาท)" เค้กรูปดาว ราดด้วยครีมชีส เสิร์ฟพร้อมกับผลไม้อย่าง เคพกูสเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ตุ๊กตาคริสต์มาสที่เป็นช็อกโกแลตและไวท์ช็อกโกแลต"Boonta's Garden (200 บาท)" เมนูฮอตฮิตของทางร้าน เสิร์ฟมาพร้อมกับวาฟเฟิลฮ่องกงและไอศกรีม ราดซอสคาราเมลผสมกลิ่นเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ ท็อปด้วยดอกไม้และผลไม้"บุญตาช็อกโกแลตร้อน (180 บาท)" สีสันของเมนูนี้อยู่ที่สายไหมหวาน เวลาทานนำสายไหมไปวางบนปากแก้วนม แล้วเทช็อคโกแลตร้อนลงไป ความหวานจากสายไหมจะละลายลงไปนถ้วย"สปาเกตตีขี้เมาทะเล (280 บาท)" "อกไก่ยัดไส้ครีมผักโขม (200 บาท)" เมนูสุขภาพเบาๆ แต่อยู่ท้องตามมาเช็คอินที่ร้าน "Boonta Flowers and Cafe" กันได้ที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร.08-1845-0018

  • Forever Cafe คาเฟ่สุดอบอุ่นย่านงามวงศ์วาน

    "Forever Cafe" คาเฟ่น่ารักตกแต่งด้วยดอกไม้สวยๆ บรรยากาศสบายๆ เต็มเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น เป็นคาเฟ่แนว Lifestyle & Activity ที่นอกจากเป็นคาเฟ่แล้วยังมี Workshop ให้เหล่าลูกค้าได้มาลองทำกันภายในร้านตกแต่งเป็นสไตล์ Minimal Warm Flower Glasshouse ให้ความรู้สึกเป็นความอบอุ่นเมืองหนาว พร้อมให้มาถ่ายรูปกับดอกไม้สวยๆ รับกลิ่นอายของ Festive และสำหรับเมนูต่างๆ ของทางร้านจะนำเสนอความอร่อยในแบบโฮมเมด และนอกจากคุณภาพของวัตถุดิบที่ดีแล้วแต่ละเมนูยังมีเรื่องราวและกิมมิคน่ารักๆ ซ่อนอยู่อีกด้วย"Shrimp Toast (98 บาท)" ที่นำขนมปังชั้นดีซึ่งทางร้านสั่งตรงจากโรงงานเจ้าประจำมาทาเนยหอมๆ แล้วนำไปจี่บนกระทะร้อนๆ ให้ความขนมปังกรอบ หอมกลิ่นเนย จากนั้นจึงท็อปด้านบนด้วยกุ้งแชบ๊วยที่คลุกเคล้าเข้ากับเครื่องเทศสูตรพิเศษ เมนูนี้เมื่อทานคู่กับขนมปังให้รสชาติเข้ากันได้เป็นอย่างดี"Chicken Spicy Sandwich (98 บาท)" ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความชอบทานแซนด์วิชทุกชนิดของเพื่อนๆ ความพิเศษอยู่ที่ขนมปังชิ้นหนาพิเศษที่ทาเนยมาแบบฉ่ำๆ สอดไส้มาด้วยอกไก่ พริกดอง คลุกเคล้ากับซอสซัลซาร์ เห็ดและแตงกวาดอง แล้วเติมความหอมด้วยชีสเน้นๆ ก่อนจะนำไปอบร้อนแล้วโรยด้วยผงปาปริก้า พร้อมเสิร์ฟเคียงมากับไข่ปลาคาเวียร์"Strawberry Kiwi Toast" โทสจัดเต็มไปด้วยมิกซ์ผลไม้ทั้งสตรอว์เบอร์รีและกีวี่ สาวสายคลีนต้อชอบกันอย่างแน่นอน"Cheese Cake (128 บาท)" ชีสเค้กหน้าไหม้ เป็นสูตรจากญี่ปุ่นแต่นำมาปรับให้เข้ากับคนไทย หน้าจึงจะไม่ไหม้เยอะเกินไปและส่วนผสมที่เข้มข้นในปริมาณที่ทานแล้วพอดี ไม่มีกั๊ก ได้รสชาติชีสเต็มๆและอีกสิ่งพิเศษของทางร้านคือเครื่องดื่มที่มีการครีเอทเมนูมาจากภาพยนตร์ ดื่มแล้วให้ความรู้สึกถึงเรื่องนั้นๆ เริ่มจากเมนู "Once (98 บาท)" มาจากหนังรัก ที่มีพระเอกและนางเอกมีฝันที่ต่างกัน แต่มีการเชื่อมโยงด้วยความรักเท่านั้น เพราะเค้าทั้ง 2 ไม่ได้อยู่ด้วยกัน เหมือนรสชาติของกาแฟที่ขมตัดกับสตรอว์เบอร์รีที่มีรสเปรี้ยวหวาน มีรสชาติที่ต่างกันเหมือนที่เค้าทั้งคู่มีความฝันต่างกัน แต่สุดท้ายสิ่งที่เชื่อมเค้าให้เข้ากันได้ คือ ความรักอีกหนึ่งเมนูเครื่องดื่มต้อนรับวาเลนไทน์นี้คือ "Valentine's" เป็นเทศกาลแห่งความรักที่มีความรักหรือการเฉลิมฉลองเกิดขึ้นมากมายในวันนั้น ก็เหมือนเครื่องดื่มของทางร้านที่ทำขึ้นมา เมื่อชิมแล้วจะรู้สึกถึงรสชาติที่หลากหลาย ขม หวาน เปรี้ยว เหมือนความรักที่หลากหลาย เครื่องดื่มอันนี้จะมีความน่ารัก สวยงาม ดูอบอุ่นด้วยการผสมนมเข้าไปด้วย เหมาะกับเทศกาลแห่งความรักนี้ไม่ว่าจะเป็นวันแห่งความรักหรือวันไหนๆ ก็อยากให้ทุกคนได้มาลองกันที่ร้าน "Forever Cafe" อยู่ที่งามวงศ์วาน ซอย 43 ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 8.30-19.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-9624-2951

  • Americano Cafe คาเฟ่ชิคๆ สไตล์อเมริกันยุค 60

    "Americano Cafe" คาเฟ่น้องใหม่สไตล์ยุค 60 เหมาะกับเพื่อนสายอินเทรนด์ที่ชอบความชิค ร้านใหม่ และโลเคชั่นถ่ายรูปเจ๋ง ๆ แชร์ลงโซเชียล บอกเลยว่าต้องมา!! ได้รูปกลับไปเป็นอัลบั้มแน่นอน ยิ่งมาถ่ายรูปเป็นแก๊งค์เพื่อนแบบวัยรุ่นอเมริกัน รับรองอินเทรนด์สุดๆ ร้านฟาสฟู้ดสมัยนั้นโดนใจวัยรุ่นมาก เรียกว่าเป็นที่รวมพลของวัยรุ่นเลยด้วยบรรยากาศร้านมีสีสันสดใสสไตล์อเมริกัน โดยแนวคิดนี้เกิดจากที่ความชอบสะสมของแนว Retro - Pop Art สีสันจัดๆ ของเจ้าของร้าน ในส่วนของเมนูอาหารก็จะเป็นสไตล์อเมริกัน "เบอร์เกอร์หมู (190 บาท)""มิลค์เชค เรนโบว์ (135 บาท)""Spaghetti Garlic & Chili (189 บาท)"สายอินเทรนด์ ชอบถ่ายรูป แวะกันมาได้ที่ร้าน "Americano Cafe" ถนนบางแวก ระหว่างซอยบางแวก 37 กับ 37/1 วันอาทิตย์-พฤหัส เปิดตั้งแต่เวลา 10.30-20.00 น.  วันศุกร์-เสาร์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.30-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-3151-9936

  • Tangible คาเฟ่สายอาร์ตย่านเจริญกรุง

    เปรี้ยวปากมาเยือนเจริญกรุงถิ่นคนอาร์ตทั้งทีก็ไม่พลาดที่จะมาอัพเดทคาเฟ่ใหม่ๆ กันที่ "Tangible" คาเฟ่สายอาร์ตน้องใหม่ ชิคมากๆ ทั้งคอนเซ็ปต์และการดีไซน์ร้าน เมื่อถามถึงการคอนเซ็ปต์และการดีไซน์ร้าน คุณนิคเจ้าของร้านบอกกับเราว่า "ร้านชื่อว่า Tangible เพราะเราทุกคนมีแรงบันดาลใจ มีคอนเซ็ปต์ ดังนั้นจึงนำเอาความคิดเหล่านี้ออกมาให้สามารถจับต้องได้ กลายเป็นสินค้าต่างๆ ที่จำหน่ายอยู่ภายในร้าน และคอนเซ็ปต์ของที่ร้านก็คือ Creative Seoul Space คือจะทำทุกอย่างให้เหมือนว่ายังไม่เสร็จดีเพื่อเปิดความคิดให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ต่อ"นอกจากความอาร์ตภายในร้านแล้วยังมีเมนูเครื่องดื่มต่างๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย มานั่งจิบกาแฟชมความอาร์ตภายในร้านได้แบบชิลๆ "Dirty (110 บาท)" "Cold Brew (150 บาท)" "Banana Cake (105 บาท)" "Croffle (95 บาท)" คาเฟ่อาร์ตๆ แบบนี้ตามมาเช็คอินกันได้ที่ร้าน "Tangible" ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ปากซอยเจริญกรุง 82 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. (หยุดทุกวันอังคาร) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1376-0402

  • คาเฟ่สไตล์ตุรกี พระนครแซ่บ คาเฟ่

    คาเฟ่เปิดใหม่ในอยุธยาที่ดังมากในโซเชียลกับร้าน "พระนครแซ่บ คาเฟ่" มาในสไตล์อาหรับที่เจ้าของร้านได้แรงบันดาลใจมาจากประเทศตุรกี มีจัดมุมไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันได้แบบเพลินๆ และนอกจากตัวร้านที่มาในสไตล์อาหรับแล้วยังมีขนมสไตล์ตุรกีและอาหารอีสานแซ่บๆ อีกด้วยตัวร้านแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ชั้น ฝั่งคาเฟ่(ชั้นบน) สามารถนำขนมขึ้นมาทานได้เท่านั้น ตกแต่งในสไตล์อาหรับสวยๆ และมีอุปกรณ์ตกแต่ง เช่น สร้อย ผ้า ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาใส่ถ่ายรูปสวยๆ และฝั่งร้านอาหาร(ชั้นล่าง) จะมีบริการห้องแอร์ไว้ให้นั่งทานอาหาร"Turkish Coffee (120 บาท)" เซตกาแฟตุรกีพร้อมขนตุรกีที่อิมพอร์ตมาจากประเทศตุรกี "เซตชาทับทิม (100 บาท)" ชาทับทิมมาพร้อมขนมจากตุรกีหรือ "Turkish Delight (ซื้อแยกชิ้นละ 15 บาท)" ตัวขนมค่อนข้างหวานและมีสีสันสวยงามเหมาะทานคู่กับชาให้ตัดรสชาติกัน"ตำหลวงพระบาง (50 บาท)" "ออเดิร์ฟอีสาน (180 บาท)""แกงเห็ด (80 บาท)"ใครแวะมาอยุธยาต้องไม่พลาดมาเช็คอินกันที่ร้าน "พระนครแซ่บ คาเฟ่" ร้านอยู่ห่างจากแยกทุ่งมะขามหย่อง 400 เมตร จ.อยุธยา ฝั่งคาเฟ่ เปิดเวลา 8.30-18.00 น. และ ฝั่งร้านอาหาร เปิดเวลา 10.00-20.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่ม โทร. 08-9171-7068

  • Peko Peko Cafe คาเฟ่มินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น

    อีกหนึ่งคาเฟ่เล็กๆ น่ารักจากร้าน "Peko Peko Cafe" คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางเมืองอยุธยา ที่มีทั้งเมนูชาเขียวส่งตรงจากญี่ปุ่นและเค้กสไตล์มินิมอลโฮมเมด"เค้กเลมอนมิ้นท์ (75 บาท)""เค้กลิ้นจี่ (75 บาท)""Nishio Latte (75 บาท)""Matcha Thai Tea (75 บาท)"เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่สายถ่ายรูปต้องมา รับรองว่าได้รูปคิ้วท์ๆ ไว้ลงกันแน่นอน ร้าน "Peko Peko Cafe" ร้านอยู่บริเวณสี่แยกวัดราชประดิษฐาน จ.อยุธยา ร้านเปิด 9.00-18.30 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-6360-6920

  • Busaba Cafe & Bake Lab

    อีกหนึ่งคาเฟ่ห้ามพลาดถ้าได้มาที่อยุธยาก็คือร้าน "Busaba Cafe & Bake Lab" คาเฟ่สไตล์มินิมอลที่มีไฮไลท์คือ สุดยอดวิวที่มองเห็นวัดราชบูรณะ โดยเฉพาะช่วงแสงยามเย็นพระอาทิตย์ใกล้จะตกจะงดงามมากๆ ถือว่าเป็นมุมยอดฮิตของที่นี่เลยที่ร้านยังมีอีกหลากหลายโซน เช่น ชั้น 2 ก็จะเป็น โซน Bake Lab อบขนมกันสดๆ วันต่อวันและยังทำขายให้กับร้านอื่นๆ ในอยุธยาอีกด้วย ส่วนกาแฟก็เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน และโซน Living Room ถ้ามาช่วงบ่ายๆ ก็จะได้แสงถ่ายรูปคูลๆ ที่มองเห็นวิววัดราชบูรณะอีกด้วย"Busaba Ice Latte (105 บาท)" ตัวกาแฟมีส่วนผสมของน้ำตาลมะพร้าว ด้านบนจะใส่สายไหมมาด้วย เป็นซิกเนเจอร์ของอยุธยา"Coconut Folat (130 บาท) / Coconut Blue Tea (105 บาท)" น้ำอัญชันมะพร้าว ท็อปด้วยไอศกรีมมะพร้าวหอมๆ"Thai Thai In A Cup (125 บาท)" ไอศกรีมชาไทยที่จุ่มลงไปในแก้วที่มีขนมต่างๆ"Soft Bread Chocolate Cream With Banana (80 บาท)" ตัวขนมปังอยู่ด้านล่าง ท็อปด้วยครีมช็อคโกแลตที่มีความเข้มข้นมาก"Chiffon Vanilla Lemon Cream (95 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน ตัวเนื้อ Chiffon นุ่มละมุน เข้ากันกับครีมเลมอนอมเปรี้ยวหวานลงตัวสุดๆแนะนำร้านนี้เลยสำหรับสายคาเฟ่ที่ชอบความมินิมอล "ร้าน Busaba Cafe & Bake Lab" ร้านอยู่ตรงข้ามวัดราชบูรณะ จ.อยุธยา เปิดทุกวัน 9.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-1384-2288

  • Beaker and Bitter คาเฟ่ธีมห้องแล็บชิคๆ

    "ร้าน Beaker and Bitter" ร้านคาเฟ่น้องใหม่แกะกล่องในธีมห้องแล็บและเป็น Co-Working Space ที่มาพร้อมมุมถ่ายรูปคูลๆ ที่เหล่า Cafe Hopper จะต้องห้ามพลาดมาเช็คอิน เมนูกาแฟของที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กันเพราะทางร้านจะ Mix มาให้เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟแต่ละแบบร้าน Beaker and Bitter ได้รีโนเวทโรงงานผลิตยาเก่าอายุกว่า 50 ปี ให้กลายเป็นคาเฟ่ในธีมห้องทดลองวิทยาศาสตร์ บรรยากาศภายในร้านจึงดึงดูดและเข้าถึงง่าย ส่วนไฮไลท์อยู่ตรงโถงกลางร้านมีทั้งบันไดวน และโต๊ะเก้าอี้เข้าธีม"Vita Berry Mix (125 บาท)""Coconut Cake (145 บาท)" เค้กทรงสี่เหลี่ยมให้เข้ากับธีมและการออกแบบร้าน เนื้อเค้กเบารสชาติหวานกำลังดี หอมซอสมะพร้าวอ่อน"Volcano Magma Lava (245 บาท)" ด้านล่างเป็นครัวซองต์ชิ้นใหญ่ ท็อปด้วยสโมกเบคอนและชีส ก่อนนำมาเสิร์ฟจะเบิร์นไฟจนชีสเยิ้ม"R.I.P. (145 บาท)" แก้วนี้ชื่อเต็มๆ ว่า Rose In Peach เป็นเบสกาแฟสไตล์อเมริกาโน เติมความหวานไซรัปกุหลาบและซอสเนื้อลูกพีชลงไปเพื่อให้ทานง่ายขึ้น"Cold Cacao Latte With Fresh Cream (145 บาท)""Dirty Latte (135 บาท)"สายคาเฟ่ห้ามพลาดมาเช็คอินกับ "ร้าน Beaker and Bitter" ร้านอยู่ซอยพหลโยธิน 8 จาก BTS อารีย์ 500 เมตร เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 08-2989-6946

  • My Heaven coffee สวรรค์ของคนรักคาเฟ่

    สายหวานพาสเทลต้องถูกใจสิ่งนี้!! คาเฟ่สุดละมุน เหมือนหลุดไปอยู่ที่เกาหลี สีสวย แสงดี มุมถ่ายรูปเพียบ เป๊ะมาก  มุมไหนก็สวย มุมไหนก็ดี ลงตัวไปหมดเครื่องดื่ม ขนมหวาน สีสันสวยงาม แถมรสชาติอร่อยมาก โดนใจจริงๆBlooming Dreams เห็นแค่สีก็ฟินแล้วจ้า สดชื่นสุดๆMatcha Latte เมนูชาเขียวที่ทุกคนต้องหลงรัก ชาเข้มข้นหอมละมุนSignature Manu Croffle ไฮไลต์ ของที่นี่เลย ไม่ลองไม่ได้แล้วOrange fudge Cake  น้อนเค้กส้ม ส้มหยุด!! แต่ความอร่อยหยุดไม่ได้เค้ามีชั้นสองไว้รองรับลูกค้าที่น่ารักด้วยนะ ดีอะ!! จะมาเป็นแก๊งก็มีโต๊ะรองรับนะจ๊ะ หรือจะเช่าสถานที่เป็นที่ประชุมคุยงานก็ได้ มีมุมหนังสือ ไว้ให้หยิบมาอ่านเพลินๆ ช่างสงบจริงๆอยากสั่งอาหาร เครื่องดื่ม หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมก็เชิญที่เคาน์เตอร์เลยจ้า 

  • Tim Hortons กาแฟแบรนด์ดังจากแคนาดา

    "Tim Hortons" ร้านกาแฟและขนมอบแบรนด์ดังจากแคนาดาที่มาเปิดสาขาครั้งแรกในไทย เอาใจคนรักกาแฟด้วยรสชาติกาแฟระดับพรีเมี่ยม พร้อมขนมที่อบสดใหม่เหมือนได้บินไปกินที่แคนาดาเลยร้านแรกของ Tim Hortons ของประเทศไทยจะอยู่ที่สามย่านมิตรทาวน์ โดยตกแต่งร้านที่ให้บรรยากาศแบบแคนาดาตามประเทศต้นกำเนิดเลย นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหาร ขนม และเครื่องดื่มมากมาย โดยเฉพาะกาแฟของ Tim Hortons เป็นอาราบิก้าแท้ 100% ให้ได้ลิ้มรสความอร่อยกันแบบต้นตำรับ"Hot French Vanilla (ไซส์เล็ก 95 บาท/ ไซส์กลาง 110 บาท/ ไซส์เล็ก 125 บาท)""Tim Iced Latte (ไซส์เล็ก 115 บาท/ ไซส์กลาง 130 บาท/ ไซส์ใหญ่ 145 บาท)" เมนูที่ควรลองสำหรับคนรักกาแฟใส่นม เพิ่มความหอมหวานด้วย Maple Syrup ซิกเนเจอร์ของแบรนด์"Cookies & Cream Iced Capp (ไซส์เล็ก 115 บาท/ ไซส์กลาง 130 บาท/ ไซส์ใหญ่ 145 บาท)" กาแฟปั่น เนื้อเนียนนุ่มแต่เข้มข้น"Strawberry Creamy Chill (ไซส์เล็ก 115 บาท/ ไซส์กลาง 130 บาท/ ไซส์ใหญ่ 145 บาท)""Timbits" โดนัทลูกเล็กพอดีคำใครคิดถึงกาแฟหรือขนมอร่อยๆ จากแคนาดา ไม่ต้องบินไปไกลก็สามารถมาอร่อยได้ที่ "ร้าน Tim Hortons" ร้านอยู่ชั้น G Samyan Mitrtown ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00-20.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2264-6262

  • Unbranded Cafe คาเฟ่ขนมปังฝรั่งเศสแบบโฮมเมด

    ร้านขนมอบชื่อดังที่สาวกขนมปังจะต้องชื่นชอบกับร้านนี้ "Unbranded Cafe" ที่เชฟโรสเจ้าของร้านตั้งใจรังสรรค์คาเฟ่นี้ขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับขนมปังฝรั่งเศสแบบโฮมเมดสูตรเฉพาะของที่นี่ ซึ่งตอนนี้ก็ได้มารวมอยู่ที่เดียวกับโรงแรมพระนครนอนเล่น ทำให้มีทั้งอาหารและขนมที่เดียวจบ"Croissant Cube (200 บาท)" ความพิเศษอยู่ที่รูปทรงสี่เหลี่ยมเหมือนขนมปังปอนด์ แล้วพอขึ้นรูปเป็นก้อนแบบนี้จะให้ความชุ่มฉ่ำของเนยยังอยู่ข้างใน มีความนุ่มและหอมเนย"Sourdough (เริ่มต้น 200 บาท)" เป็นขนมปังฝรั่งเศสเพื่อสุขภาพ มีวิธีการทำที่ค่อนข้างยาก ใช้เวลา 2-3 วัน ในการเตรียมวัตถุดิบ เป็นการหมักยีสต์เองแบบธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้เส้นใยในขนมปังเบาบาง พอทานแล้วรู้สึกเบาท้อง ย่อยง่าย ส่วนตัวรสชาติขนมปังมีความเปรี้ยวและกรอบนอกนุ่มใน"แยมสูตร Homemade (เริ่มต้น 100 บาท)""ข้าวกะเพราหมูตุ๋น (135 บาท)" หมูตุ๋นถูกตุ๋นจนนุ่ม นานกว่า 5-6 ชั่วโมง ใส่พริกเสฉวนลงไปด้วย รสชาติกึ่งๆ พะโล้ แต่นำมาครีเอทตัดกับกะเพราที่มีรสชาติเผ็ดร้อน"ข้าวผัดมันกุ้ง (145 บาท)" ความอร่อยอยู่ที่การนำส่วนมันที่หัวของกุ้งมาผัดและเคี่ยวจนเป็นซอส ปรุงแต่งรสชาติตามสูตรของทางร้าน ทำให้จานนี้มีความหอมจากมันกุ้งมากและท็อปปิ้งด้วยไข่กุ้งอีกที"ไก่คั่วเกลือ (120 บาท)" เมนูทานเล่นที่เป็นเมนูเด็ดของทางร้าน เป็นปีกไก่ที่นำมาคลุกเคล้ากับเกลือและปรุงรสสูตรพิเศษของทางร้าน เพิ่มความหอมด้วยพริกไทยดำ แล้วก็นำไปทอดให้กรอบนอกแต่ข้างในกัดไปยังมีความฉ่ำอยู่"สปาเกตตีปลาสลิด (165 บาท)" มีความพิเศษอยู่ที่ปลาสลิดที่มาจาก จ.สุพรรณบุรี มีการดูแลอย่างพิถีพิถันตั้งแต่ขั้นตอนการแพ็ค ทำให้ปลามีความสดใหม่ สะอาด ในทุกครั้งที่ส่งมา เมนูนี้นำปลาสลิดมาทอดให้กรอบกำลังดี แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเส้นสปาเกตตี รสชาติเข้มข้น มีความเผ็ดจากพริกแห้งเล็กน้อย หอมใบโหระพาและพริกไทยดำ"สปาเกตตี Unbranded café (165 บาท)" อีกหนึ่งเมนูที่ลูกค้าชอบกันมาก ทานเมนูนี้แล้วจะเหมือนได้ทานพิซซ่าในรูปแบบของสปาเกตตี เป็นสูตรโฮมเมดของทางร้านอีกเช่นกัน โดยจะใช้พิซซ่าซอสในสไตล์ของ Unbranded มีเบสคือมะเขือเทศที่สุกเต็มที่ นำมาผัดและเคี่ยวพร้อมเครื่องต่างๆ กว่า 4 ชั่วโมง"Smoothie Mixed Fruit สูตร Wake Me Up (125 บาท)" "Freddo Cappuccino (80 บาท)""ร้าน Unbranded Cafe X โรงแรมพระนครนอนเล่น" อยู่ที่เทเวศร์ ซอย 1 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.(หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-2424-2265

  • The Hay - Equestrian Center & Eatery คาเฟ่น้องม้า

    อีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ย่านบางบอนกับร้าน "The Hay - Equestrian Center & Eatery" ร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ในโรงเรียนสอนขี่ม้าที่ใครชอบสายกิจกรรมสนุกๆ อิงธรรมชาติเบาๆ ต้องห้ามพลาด เป็นร้านที่เหมาะกับทุกคนในครอบครัว ที่สำคัญมีกิจกรรมขี่ม้าให้ได้ลองฝึกกันอีกด้วยจุดเริ่มต้นของร้านนี้เกิดจากครอบครัวที่ชอบการขี่ม้าและมีพื้นที่ซึ่งปล่อยม้าเลี้ยงเอาไว้ จึงคิดจะทำเป็นพื้นที่ที่ได้ประโยชน์เลยเปิดเป็นโรงเรียนสอนขี่ม้า มีม้าแคะไว้ต้อนรับทักทายอยู่ด้านหน้า และก็มีร้านอาหารไว้สำหรับบริการลูกค้าทั้งที่มาเรียนหรืออยากมานั่งทานอาหารชมน้องม้ากันด้วยถ้าใครสนใจอยากจะมาเรียนขี่ม้าก็สามารถเข้ามาเรียนได้ ที่นี่รับสอนตั้งแต่คนที่ยังไม่มีพื้นฐานการขี่ม้ามาก่อนเลยจนถึงคนที่มีประสบการณ์ มีคอร์สให้เลือกหลายแบบทั้งเรียนเป็นรายครั้งหรือเป็นคอร์สยาวๆ ก็สามารถเลือกได้ด้วยความที่เป็นฟาร์มม้าภายในร้านอาหารจึงตกแต่งในสไตล์เคบินไม้แถบสแกนดิเนเวีย และเพดานที่สูงให้ความรู้สึกโล่งสบาย นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ใหญ่ภายในร้านช่วยเพิ่มความสดชื่นอีกด้วย เมนูอาหารก็มีหลากหลายทั้งยุโรป อาหารไทยกลาง และอาหารใต้เริ่มด้วยเมนูซิกเนเจอร์ "ปลาหมอจุกเคย (290 บาท)" เป็นเมนูอาหารใต้พื้นบ้านจากอำเภอเชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยใช้ปลาหมอมายัดไส้กะปิ(เคย) ที่ตำกับเครื่องเทศ แล้วนำปลาไปทอดจนกรอบเมนูอาหารใต้ขายดี  "น้ำพริกกุ้งเสียบ (280 บาท)" ใช้กุ้งตัวใหญ่ตำกับสูตรน้ำพริกของเชฟที่เป็นคนใต้แท้ๆ อร่อยถึงเครื่องแน่นอนอีกหนึ่งเมนูทานเล่น "Pizza Mustang & Percheron (490 บาท)" มาถึงฝั่งอาหารยุโรป "สเต๊กปลาหิมะซอสแซฟฟรอน (680 บาท)" เหมาะสำหรับคนรักเมนูสเต็ก"ต้มยำกุ้งแม่น้ำ (380 บาท)" เมนูภาคกลางที่ต้องสั่งกันทุกโต๊ะ ใช้กุ้งแม่น้ำไซส์ใหญ่ ตัวน้ำต้มยำเป็นสูตรของทางร้านเอง อร่อยเข้มข้นทั้งอิ่มอร่อยและได้ทำกิจกรรมสนุกๆ มากันได้ที่ร้าน "The Hay-Equestrain Center & Eatery" ซอยเอกชัย 131 เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2408-3672

  • Atomic Pills สารพัดเมนูขนมหวานเพื่อสุขภาพ

    ปัจจุบันใครๆ ก็ชอบทานทั้งขนมหวานและน้ำหวานแต่ทานมากไปก็คงไม่ดีต่อสุขภาพ ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็นคาเฟ่ขนมหวานที่จะไม่ทำลายสุขภาพอย่าง "Atomic Pills" คาเฟ่ที่ดูเหมือนบังเกอร์หลบภัยเพื่อใช้เป็นพื้นที่รักษาเหล่าผู้รอดชีวิตให้ได้รับการรักษาที่อร่อยและไม่ทำลายสุขภาพ ด้วยการจ่ายยาเป็นขนมหวานแบบไม่ต้องกังวลเรื่องระดับน้ำตาลในเลือดคาเฟ่สีเหลืองสดใสแห่งนี้เกิดจากการรวมตัวของหมอผ่าตัด 3 คน โดยมี 'หมอตั้ม-ดิษกุล ประสิทธิ์เรืองสุข' ผู้เข้าแข่งขันจากรายการ MasterChef Thailand ร่วมกับเพื่อนสมัยเรียนอย่าง 'หมอเอิร์ธ-กฤตยชญ์ พัชนี' และ 'หมอเบนซ์-บริวัฒน์ สันติภาษ' เปิดเป็นคาเฟ่เพื่อสุขภาพแห่งใหม่ย่านอารีย์ภายในร้านเลือกใช้ธีมสีขาวสลับเหลือง การออกและตกแต่งให้ดูล้ำ ทันสมัย มีมุมต่างๆ หลากหลาย โดดเด่นสะดุดตาทั้งภายนอกและภายในร้าน โดยเฉพาะเคาน์เตอร์บาร์กลางร้าน ยิ่งทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังมีการทดลองวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นอยู่เมื่อคาเฟ่แห่งนี้อยู่ในความดูแลของคุณหมอทั้ง 3 ท่าน ดังนั้นเมนูขนมและเครื่องดื่มแสนอร่อยจึงเน้นมีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นสำคัญ ไม่ใส่น้ำตาลเพิ่มในเมนูเลย ความหวานที่ได้จึงมาจากวัตถุดิบที่ใช้หรือจากน้ำตาลหญ้าหวานที่ไม่ดูดซึมเข้าร่างกายเท่านั้น และทุกเมนูผ่านการคิดคำนวณแคลอรี่มาเรียบร้อยแล้ว ทำให้ทุกคนสามารถทานขนมได้อย่างหมดห่วง"Atomic Choux Cream (ชิ้นละ 80 บาท / Set 4 ชิ้น 300 บาท)" ชูครีมเพื่อสุขภาพที่คิดสูตรมาให้ลดแคลอรี่ลงไปกว่าครึ่ง มีให้เลือกถึง 4 รสชาติ ดังนี้ ชูครีมรสบุษราคัมกรอบ, ชูครีมรสสังขยาใบเตย, ชูครีมรสชาไทยเฉาก๊วย, ชูครีมรสไข่เค็มลาวาเมนูซิกเนเจอร์ของที่ร้านที่ช่วงนี้กำลังฮิตกับ 'ชีสเค้กหน้า' โดยที่ร้านจะเป็นชีสเค้กหน้าไหม้ที่เฮลท์ตี้ รสสัมผัสเบา นุ่มนวล มีด้วยกัน 3 รสชาติ Atomic Original Cheat Cake, Atomic Hojicha Cheat Cake, Atomic Matcha Cheat Cake ราคาชิ้นละ 160 บาทและพิเศษสุดๆ กับช่วงนี้คือเมนู "Atomic Durian Cheat Cake (160 บาท)" รสชาตินุ่มละมุน แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ Guil Free ทานได้สบายๆ เพราะคำนวณมาให้แล้วว่าแคลอรี่น้อย และตัวทุเรียนคัดเป็นเกรดพรีเมี่ยมต่อกันด้วยเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ "Atomic Mocha (145 บาท)" คัดสรรเมล็ดกาแฟจากเชียงรายและบราซิล มาผสมสานเข้ากับช็อคโกแลตสเปรดสูตรสุขภาพ ที่ใช้ช็อคโกแลตผสมกับเฮเซลนัทบดล้วนๆใครไม่ใช่สายกาแฟก็มีเมนูสดชื่นๆ ให้เลือก "Passion Fruit Ginger Soda (130 บาท)"รับรองว่าต้องถูกใจสายขนมหวานที่รักสุขภาพอย่างแน่นอน มากันได้ที่ร้าน "Atomic Pills" อยู่ในโครงการ Medical Center ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-7952-5598 

  • Kazzya Bar คาเฟ่ฟรุ้งฟริ้ง ละมุนจนใจละลาย

    คาเฟ่น้องใหม่ คุมโทนพาสเทล น่ารักสุดๆ  เปิดให้บริการใจกลางสยามเลยจ้ามีมุมนั่งทานสุดเก๋ แอร์เย็นๆ กับเครื่องดื่มสุดฟิน งู้ยยยยดี๊อ่าFresh milk 100%  นะจ๊ะ เมนูครีเอทมีให้เลือกหลากหลาย ถ้าเลือกไม่ถูกก็สั่งมาลองหลายๆแก้วก็ได้นะ เพราะอร่อยทุกแก้วWhite Chocolate Fruity Pebbles นมสดปั่นกับไอศกรีม มีซีเรียลด้วย อร่อยกรุบYogurt Pipo นมสดและโยเกิร์ตแท้ หอม หวาน อร่อยเกินต้านจริงๆจ้านมสด Kazzya Bar มี 5 รส Fresh milk , Chocolate milk , Malted milk , Thai tea milk และ Drinking yogurt ต้องลองให้ครบทุกรสจะได้ฟินขั้นสุดมุมถ่ายรูปหน้าร้านเก๋มาก ใครมาก็ต้องแชะภาพมุมนี้สักหน่อย แต่งตัวคิวท์ๆมาด่วนเลยจ้า

  • รจนา Cafe ร้านอาหารกลางทุ่งนาย่านบางบัวทอง

    ตามมาเช็คอินคาเฟ่น้องใหม่ย่านบางบัวทอง รับรองถูกใจสายธรรมชาติสุดๆ กับคอนเซ็ปต์เก๋ๆ "รจนา Cafe" คาเฟ่ในบรรยากาศทุ่งนา ดอกไม้ ใบหญ้า สระน้ำมรกต นอกจากมุมถ่ายรูปสวยๆ แล้ว อาหารที่นี่ยังจัดจ้านตามสไตล์อาหารไทยอีกด้วย"รจนา Cafe" คาเฟ่เรือนแพเปิดใหม่ที่มีบ่อน้ำอยู่ตรงกลาง รายล้อมไปด้วยเรือนแพให้ได้นั่งห้อยขาทานอาหารแบบชิลๆ พร้อมสูดอากาศอันสดชื่น แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ อย่างทุ่งนาสีเขียวขจีให้ได้เช็คอินอีกด้วย"เหลาทะเล (159 บาท)" ตำรวมซีฟู้ดทั้งหมึก กุ้ง ปู ใส่ไหลบัว"ต้มยำกุ้งแม่น้ำ (159 บาท)""ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน (250 บาท)""ข้าวผัดรจนา (180 บาท)" ข้าวผัดสับปะรดสูตรของทางร้าน ผัดแบบไม่แห้งมาก หอมกลิ่นกระทะ"ยำปูม้า (150 บาท)""ปลากะพงทอดน้ำปลา (299 บาท)" "รจนา Cafe" อยู่ในซอยโรงเรียนคล้ายสอนศึกษา ร้านเปิด 10.00-21.00 น.(หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-2253-0069

  • The Aileen Cafe คาเฟ่ทะเลทุ่งนาย่านปทุมธานี

    คาเฟ่สุดฮิปที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง "The Aileen Cafe" คาเฟ่น้องใหม่ที่เนรมิตให้เหมือนอยู่ชายทะเลกับร่มสีชมพูแสนสดใส แต่วิวเบื้องหน้าถูกแทนที่ด้วยทุ่งนาสีเขียวและทิวต้นตาลสุดร่มรื่น ภายในร้านมีมุมถ่ายรูปมากมาย ทั้งโซนหาดทรายจำลอง มีเก้าอี้ชายหาดวางเรียงรายสีสันสดใสคล้ายหาดทรายจริงๆ แต่แทนที่ด้วยวิวทุ่งนาสีเขียว และทิวต้นตาลแทนน้ำทะเล  และมุมยอดฮิตที่ต้องมาถ่ายรูปเลยก็คือ กรงนก ที่ได้ฟีลบาหลีเบาๆที่นี่เป็นคาเฟ่แต่ไม่ได้มีแค่เครื่องดื่มหรือขนมเท่านั้น ยังมีบริการอาหารแบบจัดเต็มอย่าง "ปลากะพงลุยสวน (380 บาท)", "ยำสามกรอบ (169 บาท)", ปลาหมึกผัดผงกะหรี่ (189 บาท)"หรือใครที่อยากสั่งเครื่องดื่มมานั่งจิบชิลๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่น ก็มีให้เลือก"The Aileen Summer (150 บาท)" เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของทางร้าน มีกิมมิคเป็นแก้วน่ารักๆ "Strawberry Mango On Top (95 บาท)"นอกจากนี้ยังมีขนมเบเกอรี่อร่อยๆ ให้เลือกอีกมากมายตามมาเช็คอินคาเฟ่น้องใหม่กันได้ที่ "The Aileen Cafe" อยู่ใกล้กับแม็คโครปทุมธานี ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น.(หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-4398-8968

  • เข้าสู่คาเฟ่แห่งจินตนาการใน นิทานคาเฟ่

    'เที่ยวหนึ่งวันปทุมธานี' พลาดไม่ได้กับคาเฟ่เปิดใหม่ในสวนสวยสไตล์อังกฤษที่ "นิทานคาเฟ่ (Nitan Cafe & Garden)" มีสวนและลำธารเล็กๆ ให้ความสดชื่น ร่มรื่นเหมือนหลุดเข้าไปในโลกนิทาน มุมถ่ายรูปก็เพียบ มีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม และของหวานมากมายที่ทางร้านสร้างสรรค์ขึ้นมาจากใจ'นิทานคาเฟ่' เกิดจากความฝันของ 'แอน-ปรัชญา สิงห์โต' และ 'โบว์-ศิวาพร สิงห์โต' คู่สามีภรรยาที่อยากมีคาเฟ่เล็กๆ ให้บรรยากาศราวกับอยู่ในนิทานสักเรื่อง จึงกลายเป็นคอนเซปต์ร้านน่ารักๆ เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์เมนูอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงบรรยากาศร้านที่ตกแต่งให้อยู่ในสวน มีดอกไม้ ลำธาร โดยใช้ชื่อลูกสาวของทั้งคู่ ชื่อว่า 'น้องนิทาน' มาตั้งเป็นชื่อร้านกว่าจะกลายมาเป็นร้านนิทานคาเฟ่ คุณแอนและคุณโบว์จึงให้น้องสาว 'โมนา-พิมพ์ลภัส น้ำเงินใจงาม' ไปเรียนทำขนมอยู่หลายคอร์ส เพื่อมาเป็นผู้จัดการร้านและดูแลเมนูอาหารร่วมกัน แต่กว่าจะสร้างสรรค์รายชื่อเมนูสนุกๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากโลกแห่งนิทาน พวกเขาต้องช่วยกันระดมความคิดอย่างหนักแล้วค่อยๆ พัฒนามาเรื่อยๆ จนได้ชื่อเมนูและตัวเมนูที่มีความสอดคล้องกับโลกแห่งนิทานตามต้องการ เริ่มด้วยเมนูทานเล่นสุดคิ้วท์ "ไส้กรอกค็อกเทล" จี่ในน้ำมันน้อยๆ ไฟกลางเพื่อให้ผิวไส้กรอกตึงสวยโดยที่เนื้อในยังนุ่ม และ "เบสิกเฟรนช์ฟรายส์" ทอดจนเหลือง กรอบนอกนุ่มใน โรยเบคอนบิทนิดหน่อย ฟินได้ง่ายๆ เพียงแค่จิ้มซอสมะเขือเทศ"ข้าวแซลมอนไทยเทอริยากิ (245 บาท)" ข้าวปลาแซลมอน นำแซลมอนชิ้นโตไปย่างให้สุกพอดี ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงไทยล้วนๆ ราดด้วยน้ำซอสเทอริยากิสไตล์ไทย ให้รสเค็มหวานนวลๆ หอมเครื่องสมุนไพร คลุกกับข้าวหอมมะลิอุ่นๆ และไข่ออนเซ็นเพิ่มความกลมกล่อม เคียงด้วยผักต่างๆ เพิ่มความสดชื่น และยังมีผักชนิดที่ไม่ค่อยเจอที่ไหน นั่นคือ 'ผักปลัง' ซึ่งเป็นผักทางตอนเหนือของไทย"เพนเน่คาโบอาม่า (225 บาท)" ซอสคาร์โบนาราสูตรต้นตำรับ ตัวซอสทำจากซอสไข่แดงจากไข่ออนเซ็นและครีมชีส ทานกับเบคอนบิทกรุบกรอบและเบคอนชิ้นหนาพอดีคำ คอนเซปต์ของเมนูนี้คือ 'เป็นเมนูสั่งง่ายสบายใจเหมือนคุณยายใจดีเดินออกมาจากนิทานมาทำให้กิน' นั่นเอง"มาเลฟิเซนต์ (264 บาท)" เมนูนี้เป็นตัวแทนของสีกลางคืนในนิทาน จานนี้รวบรวมช็อคโกแลตหอมหวานเข้มข้นในรูปแบบต่างๆ ใครชอบช็อกโกแลตแนะนำเมนูนี้เลย"ชีสเค้กหน้านิ่ม แยมมิกซ์เบอร์รี (265 บาท)""บัมเบิลบี (145 บาท)" กาแฟสูตรพิเศษของทางร้าน ที่เอาชื่อพันธุ์ของผึ้งมาตั้งชื่อเมนู เพราะแก้วนี้มีน้ำผึ้งป่าหวานหอม แล้วยังมีไซรัปเปรี้ยวซ่าจากมะขาม เข้ากันอย่างลงตัว"นีโม (225 บาท)" ไอศกรีมชาไทยโฮมเมดที่ทางร้านทำเอง ทานคู่กับเฉาก๊วย ฮันนี้แคนดี้และครัมเบิ้ล เพิ่มรสสัมผัสกรุบกรอบด้วยข้าวพองญี่ปุ่นที่ช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับรสชาติชาไทยแล้วยังราดซอสชาไทยเพื่อเพิ่มความเข้มข้นลงไปอีกมาสัมผัสโลกแห่งนิทานกันได้ที่ "ร้านนิทานคาเฟ่ (Nitan Cafe & Garden)" ร้านอยู่ในซอยหมู่บ้านกฤษณา 1 วันจันทร์-ศุกร์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-19.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-19.30 น. (หยุดทุกวันอังคาร) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-5935-1139

  • หล่อเลี้ยง ขนมหวานสไตล์เอเชีย

    ตามหาของหวานทานกันที่ย่านสาทรกับ "ร้านหล่อเลี้ยง" ร้านขนมหวานสไตล์เอเชียที่นำเสนอรสชาติของขนมในความทรงจำ แต่ปรับสูตรให้มีความทันสมัย ทานง่ายขึ้น และคงกลิ่นอายเก่าๆ เอาไว้ได้อย่างลงตัว ที่มาของชื่อร้าน 'หล่อเลี้ยง' เกิดจากความชอบของทานขนมของเจ้าของร้านและด้วยความที่เป็นลูกหลานคนจีน จึงคุ้นเคยกับขนมหวานสไตล์นี้มาตั้งแต่เด็ก รวมถึงได้รับแรงบันดาลใจมาจากขนมฝั่งเอเชีย จีน ไต้หวัน และฮ่องกง เลยมาเปิดร้านขนมหวานที่นำเสนอรสชาติออกมาได้อย่างทันสมัย แต่คงกลิ่นอายเก่าๆ เอาไว้ เพื่อหล่อเลี้ยงร่างกายและจิตใจ ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบครอบครัว รวมถึงราคาเป็นมิตร และสามารถทานได้ทุกวัย "บ๊วยขิง (45 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน มีเบสเป็นน้ำขิงแล้วเบลนเอาความหวาน ความเค็มของบ๊วยดองมาเพิ่มความกลมกล่อมให้กับแก้วนี้ ท็อปด้วยวุ้นชาดอกหอมหมื่นลี้ที่ทางร้านทำเอง เลือกใช้ชาเกรดดี และแม้แต่กลีบดอกไม้ก็ยังสามารถทานได้ด้วย "ทะเลดำ (45 บาท)" แก้วนี้ได้ประกอบไปด้วย โอวทึ้ง สาคูที่เคี่ยวกับน้ำตาลทรายแดงจนได้สาคูที่รสชาติกำลังดี เฉาก๊วยสูตรเฉพาะของทางร้าน และท็อปด้วยแปะก๊วย ดื่มแล้วรสชาติชุ่มคอ "ไต้หวันลาเต้ (40 บาท)" ชาไต้หวัน+นมตุ๋น อีกเมนูที่เรียกได้ว่าเป็น Best Seller ของที่ร้านเลย ใบชานำเข้าจากไต้หวัน ตัวไซรัปซอสโอทึ้งหรือที่เรียกกันว่าซอสน้ำตาลทรายแดงที่ร้านก็ตั้งใจทำขึ้นมาเอง ให้กลิ่นเป็นเอกลักษณ์ของจีนอีกด้วย ท็อปด้วยข้าวบาร์เลย์ รับรองว่าถูกใจสาวกชานมแน่นอน"เซียน (85 บาท)" เมนูน้ำแข็งใส รวมมิตรบัวลอย 4 ลูก, สาคู, เฉาก๊วยโบราณ และแปะก๊วย ราดด้วยไซรัปน้ำตาลทรายแดง หวานเย็นชื่นใจ "บัวลอยนมตุ๋น (50 บาท)" จัดบัวลอยมาแน่นๆ 4 ลูก 2 ไส้ (สีขาว คือ ไส้งาดำ/สีฟ้าจากแป้งอัญชัญ คือ ไส้เผือก) นอกจากนี้ยังสามารถเลือกสั่งท็อปปิ้งเพิ่มเติมได้อีกด้วย ทั้งแปะก๊วย (10 บาท), บัวลอย (10 บาท), สาคู (15 บาท), ข้าวบาร์เลย์ (15 บาท), โกปี๊เจลลี่ (15 บาท), เฉาก๊วย (15 บาท), บุกน้ำผึ้ง (20 บาท), พุดดิ้งนมตุ๋น (25 บาท) "ร้านหล่อเลี้ยง" ซอยสาทร 11 ร้านเปิดวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.30-18.30 น. และวันเสาร์ เปิดตั้งแต่เวลา 11.30-18.30 น.(หยุดทุกวันอาทิตย์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-7284-3289

  • โครงการ Ari Doi Street Community แห่งใหม่ย่านอารีย์

    ช่วงนี้กระแสคาเฟ่มาแรงมาก อัพรูปกันกระหน่ำโซเชียล คาเฟ่น่ารัก ชิคๆ เปิดใหม่เพียบ ให้เหล่า Cafe Hopper ได้ไปเช็คอินกันแทบทุกวัน เปรี้ยวปากไม่พลาดที่จะมาอัพเดท คาเฟ่เปิดใหม่ ไม่ไปเดี๋ยวเอาท์ ที่ทั้งอิ่ม ฟิน ถ่ายรูปเพลินๆ มาฝากกัน"โครงการ Ari Doi Street" Community แห่งใหม่ย่านอารีย์ที่ฮอตฮิตมาก มุมถ่ายรูปเพียบเหมาะสำหรับชาว Cafe Hopper โครงการนี้รวบรวม 3 ร้านดังจากเชียงใหม่มาไว้ด้วยกัน นั่นก็คือTropi Hoola (คาเฟ่ขนม และเครื่องดื่ม)ฮ้านกดกริ่ง (ร้านอาหารเหนือ)Kobe King (ร้านปิ้งย่างเนื้อเกรดพรีเมี่ยม) ซึ่งชื่อ 'Ari Doi Street' ก็มีที่มาจากความเป็นเชียงใหม่ เหมือนยกดอยมาไว้ที่อารีย์ และยังเป็นการเล่นคำ 'อารีย์ดอย อร่อยดี' อีกด้วย"ร้าน Tropi Hoola" หลายคนได้ยินชื่อนี้อาจจะรู้สึกคุ้นหู เพราะเค้าย้ายร้านใหม่มาจากเดิมที่อยู่ในโครงการ GUMP Ari นั่นเอง ตัวร้านยังคงคอนเซ็ปต์คิ้วท์ๆ น่ารักสดใสสไตล์ซัมเมอร์อยู่ และมุมถ่ายรูปเยอะกว่าเดิมมาก"Crazy Cookie (99 บาท/ชิ้น)" และ "Smile Cooke (99 บาท/ชิ้น)""Summer Purple Ice Cream (99 บาท/สกู้ป)""ร้าน Tropi Hoola" เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-8975-3495ร้านอาหารเหนือแท้ๆ สูตรจากเชียงใหม่ "ร้านฮ้านกดกริ่ง" เมนูเด็ดๆ ที่มาแล้วต้องสั่ง อย่างเช่น "น้ำเงี้ยวคั่วแห้งเส้นหนึบ" "ข้าวซอยน่องไก่" ก็เป็นอีกเมนูที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน และ "ข้าวแห้งเจียงใหม่" ที่มาพร้อมปูอ่อง ไส้อั่ว และกากหมูทำเอง ส่งตรงมาจากเชียงใหม่อีกหนึ่งร้านสุดฮิตในโครงการนี้ "ร้าน Kobe King" ร้านเนื้อย่างชื่อดังจากเชียงใหม่ เอาใจสายปิ้งย่างโดยเฉพาะที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ 'เนื้อราชา ราคามิตรภาพ' คุณสามารถกินเนื้อเกรดพรีเมี่ยมในราคาที่จับต้องได้แบบฟินๆ มีบริการทั้งแบบ A La Cart และบุฟเฟ่ต์ (ราคา 599 บาท, 799 บาท และ 999 บาท)"ชุดเนื้อไทยวากิวพรีเมี่ยม" ประกอบด้วย เนื้อสุกี้ญี่ปุ่น, คารุบิพรีเมี่ยม, ใบพายพรีเมี่ยม, ลูกเต๋าพรีเมี่ยม และเนื้อซี่โครงติดกระดูกพรีเมี่ยม นอกจากนี้ในชุดยังเสิร์ฟข้าวญี่ปุ่น สลัดญี่ปุ่น แล้วก็กิมจิเป็นเครื่องเคียงให้ด้วย"ร้าน Kobe King" จันทร์-ศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 17.00-23.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 12.00-15.00 น. และ 17.00-23.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-8975-4436'โครงการ Ari Doi Street' ตั้งอยู่ที่ซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ ประมาณ 200 เมตร

  • บ้านยาหอม ซานทิส คาเฟ่บ้านหมอยา

    หลงใหลไปกับมนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมที่ถูกปลุกให้ฟื้นขึ้นมาและปรับปรุงอย่างสวยงาม "บ้านยาหอม ซานทิส" ร้านอาหารและคาเฟ่ที่ยังคงมรดกภูมิปัญญาของครอบครัวหมอยา 5 แผ่นดินไว้ด้วยอาหารไทยสูตรตำรับโบราณบ้านแห่งมรดกสมุนไพรและยาหอมของครอบครัวหมอยา 5 แผ่นดิน อายุกว่า 100 ปี ในอดีตเป็นที่รู้จักกันในนามบ้านตะนาว ซึ่งเป็นบ้านของตระกูลหมอยาครอบครัวบุณยะรัตนเวช จนกระทั่ง 'คุณดลชัย บุณยะรัตนเวช' ทายาทที่ได้รับบ้านทรงคุณค่าหลังนี้เป็นมรดก จึงทำการฟื้นฟูบ้านหลังนี้ โดยยังคงรักษาเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมเอาไว้ และได้เปิดบ้านต้อนรับแขกเป็นร้านอาหารและคาเฟ่กลางกรุงฯ ในชื่อ "บ้านยาหอม ซานทิส" คำว่า "Zantiis (ซานทิส)" มีรากศัพท์และแรงบันดาลใจมาจากคำว่า 'ความสุขสงบ' หรือ 'สันติ' นั่นเองบ้านยาหอม ซานทิส มีบริการทั้งกาแฟ เครื่องดื่ม ขนมไทย และอาหารมากมาย"U-Thai Peach Refresher (120 บาท)" เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำยาอุทัย ให้ความหอมสดชื่น ดับกระหาย คลายร้อน"Summer Orange Tea (110 บาท)" ชาน้ำส้มคั้นโรยผิวส้ม"ต้มจิ๋ว (180 บาท)" แกงโบราณที่เหมือนเป็นส่วนผสมของต้มยำและต้มส้ม แต่ใช้สมุนไพรเครื่องเทศค่อนข้างมากเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น เป็นอาหารชาววังที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 มีรสเปรี้ยวหวาน ซึ่งรสเปรี้ยวมาจากน้ำมะขามและมะนาว มีรสขึ้นจมูกเล็กๆ จากกะเพรา และโหระพา"ไข่เจียวห่อหมก (220 บาท)" เมนูนี้เป็นส่วนผสมระหว่างห่อหมกทะเลและไข่เจียว มีรสของเครื่องเทศและเครื่องแกง แต่ให้สัมผัสฟูแบบไข่ ซึ่งเมนูนี้ทางร้านได้สูตรมาจาก 'หม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์' ที่ท่านมอบให้"หลนปลาเค็ม (190 บาท)" สูตรคลองบางหลวง กลมกล่อมด้วยกะทิสด เครื่องเทศ และปลาเค็มอย่างดี ใส่สมุนไพรเยอะ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงผักสด"หมูฮ้อง อบเชย (160 บาท)" สูตรเด็ดบ้านยาหอม ซานทิส กับความหวานที่กลมกล่อม หมูหั่นมาพอดีคำ เนื้อนุ่มลิ้น"เซตขนมไทยตะโก้โบราณ (135 บาท)" ตัวขนมไทยทำสดใหม่ทุกวัน ในเซตประกอบไปด้วย สาคูใบเตย, เผือก-อัญชัน และแปะก๊วยใครที่อยากมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม ทานอาหารไทยสูตรต้นตำรับโบราณ มากันได้ที่ "ร้านบ้านยาหอม ซานทิส" ซอยดำเนินกลางใต้ ถนนตะนาว ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-5764-2768

  • WRU Prompong

    ถ้าพูดถึงความอร่อย มีอยู่ติดขอบรถไฟฟ้าทั่วกรุงเทพฯ และหนึ่งในย่านที่ถูก Recommend ชวนให้มาเช็คอินความอร่อยกันบ่อยๆ นั่นก็คือ "สถานีพร้อมพงษ์" ย่านสุดชิคใจกลางเมืองที่รวมของอร่อยตั้งแต่สตรีทฟู้ดระดับตำนาน ไปจนถึงจุดเช็คอินใหม่ๆ ที่ใครไม่อยากเอ้าท์ต้องรีบมา และจุดเช็คอินแห่งใหม่ ไม่ไกลจาก BTS พร้อมพงษ์ ก็คือ "WRU Prompong" ที่รวมร้านอร่อยๆ ทั้งคาวและหวานเอาไว้ครบ เรียกได้ว่ามาแล้วครบจบในที่เดียวทั้งกินทั้งถ่ายรูปเลยร้านแรกเริ่มด้วย "ร้าน WRU Cafe & Laf Bar" ที่โดดเด่นเลยก็จะเป็น Clodbrew ซึ่งนอกจากจะใช้กาแฟคั่วเองแล้ว ในแต่ละเดือนทางร้านจะผลิตเมนู Clodbrew ที่เป็นซิกเนเจอร์ประจำเดือนออกมาอีกด้วย"Rwanda Coldbrew""Orange Tonic Espresso"ร้านถัดมาขอเอาใจสายหวานกับ "ร้าน Sourrgood และไอติมละมุน" แบรนด์น้องใหม่ภายใต้ไอติมละมุน โดยจุดเด่นจะอยู่ที่ใช้ผลไม้แท้ 100% ที่ส่งตรงมาจากสวนของเกษตรกร ไอศกรีมรสชาติละมุนแต่เนื้อแน่น"Yuzu Fizzy""ติมปังเนยสด""ร้าน Three Bears Pastry" อีกหนึ่งร้านที่มีทั้งของคาวและของหวาน "Waffle Bacon and Maple Syrup" และ "Young Coconut Cake"ปิดท้ายด้วยร้านบะหมี่ที่ทุกคนรู้ชื่อเสียงความอร่อยกันอยู่แล้ว "สว่างบะหมี่ก้ามปู" "ข้าวผัดหมูย่างเตาถ่าน" เมนูใหม่ที่มีเฉพาะที่ WRU Prompong ที่เดียว โดยจะใช้น้ำข้าวผัดสูตรพิเศษของทางร้านที่ต้องเคี่ยวด้วยเตาถ่านเท่านั้น ทำให้เวลาที่ทานได้กลิ่นหอมของเตาถ่านไปด้วย"บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง หมูแดง ก้ามปู" เมนูซิกเนเจอร์ หอมกลิ่นถ่านอ่อนๆ จากหมูแดง และไฮไลท์อยู่ที่ก้ามปูใหญ่และสดมากและเมนูเครื่องดื่มหวานๆ "Super Supreme Milk Tea" ชานมไข่มุกบราวน์ชูการ์จาก Mr.Shakeเป็นโครงการที่น่ารักและมีครบทุกอย่างจริงๆ กับ "WRU Prompong" อยู่ในซอยสุขุมวิท 26 วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น./ วันศุกร์-เสาร์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-24.00 น.สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-9515-6954

  • Whispering Cafe คาเฟ่กลางสวน นครปฐม

    มาฟังเสียงกระซิบจากธรรมชาติกันที่ "Whispering Cafe" คาเฟ่กลางสวนในจังหวัดนครปฐมที่ให้อยากทุกคนได้มาสัมผัสกับต้นไม้ ดอกไม้ และที่สำคัญอาหารทุกอย่างปลูกเองแบบไร้สารเคมีWhispering Cafe อยู่บนพื้นที่กว่า 9 ไร่ ที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นคาเฟ่กลางสวนด้วยฝีมือของ 'คุณวิทย์ - ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง' ผู้เป็นเจ้าของ Whispering Cafe และนักจัดสวนแถวหน้าของวงการ ผลงานที่หลายๆ คนรู้จักกันก็คือที่ Little Tree Gardenอดีตพื้นที่ของร้านเคยเป็นร่องสวน ปลูกมะม่วง ทำพืชเกษตร พอคุณวิทย์เข้ามาดูแลตกแต่งพื้นที่ในสวนต่างๆ ใหม่ และพี่สาวของคุณวิทย์ก็เปิดโรงเรียนสอนภาษากับศิลปะให้กับเด็กๆ ทำให้มีผู้ปกครองมารอเด็กๆ ซึ่งผู้ปกครองก็ชื่นชอบจะมารอในพื้นที่ของโรงเรียน คุณวิทย์จึงเกิดไอเดียถ้ามีที่ให้ผู้ปกครองนั่งเล่น มีอาหาร เครื่องดื่มให้ทานก็น่าจะดี จึงเกิดเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ จากการทำอาหารเพียงไม่กี่อย่างจนเพิ่มมาเรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเมนูที่ทำทานกันอยู่แล้วในครอบครัว และแต่ก่อนจะมาเป็นชื่อ Whispering Cafe คนจะรู้จักกันในชืื่อ Whispering Land พอมาทำคาเฟ่จึงเปลี่ยนชื่อใหม่ให้เข้ากันนอกจากที่นี่จะเป็นคาเฟ่กลางสวนแล้วยังมีกิจกรรม Workshop เล็กๆ ที่ให้ทุกคนได้มาร่วมกิจกรรม ทั้งงานศิลปะเรียงดอกไม้บนผ้า หรือ Flower Mandala และการทำขนมตางๆ หากใครสนใจร่วมกิจกรรมต่างๆ เหล่านี้สามารถเข้ามาสอบถามกับบางร้านก่อนได้"Whispering Salad" ใช้ผักสลัดอินทรีย์ แอปเปิลออร์แกนิค Pine Nuts หรือถั่วเม็ดสน ลำไยแห้ง กระบก ตะขบและไข่เป็ดจากสวน ส่วนน้ำสลัดจะมีตะไคร้ ใบเตย ขิง และมะปี๊ดจากสวน"Salt and Peppercorn Prawns" เมนูกุ้งทอดที่เลือกใช้แป้งข้าวเจ้าหอมมะลิอินทรีย์ ค่อยๆ ทอดให้เหลืองกรอบ แล้วโรยด้วยพริกเกลือที่คั่วใหม่และเมล็ดมะตูมแขก"แกงส้มมะละกอ และข้าวไข่เจียวดอกโสน" ดอกโสน เมนูตามฤดูกาลของช่วงนี้  และแกงส้มสูตรคุณยายของคุณวิทย์โดยใช้มะละกอจากในสวน ทานคู่กับข้าวหอมมะลิอินทรีย์"คาเปลลินีไส้อั่ว" เมนูวีแกนฟิวชั่น เมนูนี้ใช้ทั้งไส้อั่วและน้ำพริกหนุ่มโฮมเมด ใส่เสริมด้วยใบแมงลักปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง "เค้กมะปี๊ด" และ "แครอทเค้ก"ตามมาทานอาหารอร่อยๆ วัตถุดิบปลอดภัยจากธรรมชาติ ปลูกเอง ปรุงเอง กันได้ที่ "ร้าน Whispering Cafe" อยู่ที่ อ.สามพราน จ.นครปฐม ร้านเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-2429-4229

  • Akirarte Cafe คาเฟ่หลงยุคย่านพลับพลาไชย

    "Akirart Cafe" คาเฟ่ที่ฮอตสุดๆ กับคอนเซ็ปต์ออฟฟิศเก่าในยุค 80-90 ที่เอาคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ตู้เก็บเอกสาร แผ่นดิสก์ ลิ้นชักเก็บของมาตกแต่งร้านในสไตล์วินเทจ ให้อารมณ์ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน และที่นี่นอกจากจะเป็นคาเฟ่แล้วยังมีห้องล้างรูปฟิล์มพร้อมสแกนเป็นไฟล์ดิจิทัลได้เลย งานนี้สายกล้องฟิล์มห้ามพลาดเลยชื่อร้าน Akirart(อะคิราร์ต) Cafe มาจากคำว่า Aki ที่แปลว่า แสงอาทิตย์ รวมกับคำว่า Art ซึ่งชื่อนี้คุณพ่อของ 'คุณเคนโด้ - นาเคนทร์' เจ้าของร้านได้เคยคิดไว้เป็นชื่อเก่าของบริษัท ก่อนตัดสินใจเลือกชื่อ Kamarart Studio คุณเคนโด้จึงเอาคำว่า Akirart มาใช้ เพราะเรียกได้ง่ายและติดหูง่ายจุดเริ่มต้นของร้านเกิดจากคุณพ่อของคุณเคนโด้เปิดบริษัทเป็น Post Production รีทัชฟิล์ม ออกแบบงานโฆษณา ช่วงที่คุณเคนโด้และเพื่อนๆ เรียนอยู่ก็มาประชุมทำงานกันที่นี่จึงเกิดความผูกพัน พอบริษัทหยุดทำการไปก็เสียดาย คุณเคนโด้และเพื่อนสนิท 'คุณนิว - อาฑินันท์ เดชแพ' จึงเข้ามาปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นคาเฟ่และสตูดิโอถ่ายรูปเมนูของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นเครื่องดื่ม ซึ่งที่นี่จะใช้เมล็ดกาแฟคั่วอ่อนจากบราซิล และรัฐฉาง(ประเทศพม่า), คั่วกลางจากรัฐฉาง และกัวเตมาลา นอกจากนี้ยังมีกาแฟชนิดพิเศษอื่นๆ กว่าอีก 10 ชนิดให้ได้เลือกสรรกัน"Latte Apple Crumble (165 บาท)" เมนูกาแฟลาเต้เคี้ยวได้ เป็นการผสมผสานระหว่างกาแฟ นม ราดด้วยช็อตน้ำผึ้ง ช่วยเสริมความหวานแบบธรรมชาติ และท็อปด้วยพายแอปเปิ้ลครัมเบิ้ลกรอบๆ"Passion Fruit Espresso (140 บาท)" เอสเพรสโซ่ช็อตและเสาวรส เมนูน้ำผลไม้และกาแฟที่ดื่มง่าย แต่มีรสสัมผัสโดดเด่นของทั้ง 2 อย่าง และเพิ่มความหอมด้วยใบเลมอนบาล์ม"Creme Brulee (130 บาท)" แวะเข้ามาถ่ายรูป พักผ่อน จิบเครื่องดื่มชิลๆ กันได้ที่ "Akirart Cafe" อยู่ที่ซอยประดู่ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. (หยุดทุกวันพฤหัส)

  • Jin Ling คาเฟ่สไตล์หว่อง

    "Jin Ling" คาเฟ่สไตล์หว่องที่จะพาทุกคนย้อนกลับไปในยุคเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ โดยคอนเซ็ปต์ของร้านคือโรงเตี๊ยม จีนและชื่อ Jin Ling ยังเป็นชื่อเก่าของเมืองหนานจิง สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเมืองที่ในสมัยนั้นมีโรงเตี๊ยมแบบนี้อยู่เยอะ "สไตล์หว่อง" ที่พูดถึงมาจากชื่อของผู้กำกับชื่อดังชาวฮ่องกง 'หว่องกาไว' ที่ลายเส้นหนังเขาแต่ละเรื่องจะดึงเสน่ห์ของบรรยากาศแสงน้อยๆ กับแสงไฟนีออนมาใช้ ได้อารมณ์เหงาๆ เท่ๆ แบบฉบับฮ่องกง ที่คาเฟ่แห่งนี้จึงตกแต่งในสไตล์มืดๆ หน่อยแล้วก็เล่นกับแสงไฟนีออน นอกจากร้านจะสวยคลาสสิกแล้ว อาหารของที่นี่ก็เป็นจีนฟิวชั่นซึ่งจะดึงเอาเสน่ห์ รสชาติ และเทคนิคการทำอาหารจีนมาใช้ "บะหมี่หมูสับน้ำแดง (160 บาท)" เมนูนี้ใช้เส้นบะหมี่สูตรจากฮ่องกง จะหอมหมูสับที่เอามาผัดกับพริกเสฉวน "บะหมี่หมูต้มซีอิ๊ว (180 บาท)" หมูสามชั้นนุ่มละลายในปาก ตุ๋นกับเครื่องยาจีนนานถึง 8 ชั่วโมง ทานคู่กับซีอิ๊วที่ทางร้านทำเอง "ปังปิ้งซี่โครงหมูเสฉวน (280 บาท)" ซี่โครงหมูย่างเตาถ่านที่นำไปตุ๋นกับน้ำซอสนานถึง 7 ชั่วโมง เพื่อให้ซอสซึมเข้าไปในเนื้อ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่สั่งกันทุกโต๊ะ "Miss Jinling (120 บาท)" เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของทางร้าน หอมชาเอิร์ลเกรย์ตัดรสด้วยความเปรี้ยวของพีชหวาน ทานแล้วรู้สึกสดชื่นใครที่กำลังหาร้านอาหารกึ่งคาเฟ่สไตล์จีนย้อนยุค มากันได้ที่ "ร้าน Jin Ling" อยู่ที่ทองหล่อ 13 Seenspace ชั้น 2 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-1728-0013

  • Nivas Cafe and Bistro ร้านอาหารไทยรสจัดจ้าน

    "นิวาส Nivas Cafe and Bistro" คาเฟ่และร้านอาหารสไตล์ไทยที่มีทั้งอาหารไทยแท้ ไทยประยุกต์ ไทยท้องถิ่น ซึ่งได้ 'เชฟหนุ่ม ธนินทร' เจ้าของมิชลินสตาร์ 1 ดาว มาช่วยให้คำปรึกษากับที่ร้าน และ 'เชฟป๊อป พิชชกร' การันตีด้วยรางวัลและประสบการณ์เพียบ"แกงเหลือกุ้งสดมังคุดคัด (350 บาท)" เมนูสุดพิเศษ ด้วยน้ำแกงที่เข้มข้นจากพริกแกงเหลือซึ่งทางร้านโขลกเอง และมังคุดคัดส่งตรงมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช "ยำถั่วพูกุ้งแม่น้ำเผา (220 บาท)" เมนูเรียกน้ำย่อย หอมกุ้งแม่น้ำย่างเตาถ่าน"รวนพะโล้ไข่เค็ม (220 บาท)" ใช้หมูสามชั้นคุณภาพดี รวนกับเครื่องสามเกลอ และในน้ำพะโล้จะผสมไข่เค็มลงไปด้วยทำให้ได้ความเข้มข้นมากขึ้น"ผัดไทยไชยา (180 บาท)" เมนูนี้ทางเชฟปรุงซอสผัดไทยขึ้นมาเอง ทานคู่กับไข่เค็มไชยา"แกงเขียวหวานไก่กับโรตี (220 บาท)" ทีเด็ดอยู่ที่พริกแกงที่โขลกเอง รับประกันความหอมตามมาอิ่มอร่อยกันได้ที่ร้าน "นิวาส Nivas Cafe and Bistro" อยู่ที่ซอยนาคนิวาส 24 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-00.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-6868-8951

  • Cafe Praline คาเฟ่ครัวซองต์สุดฮอต

    คาเฟ่ครัวซองต์สุดฮอตบนถนนเจริญราษฎร์ "ร้าน Cafe Praline" ที่ทำสถิติขายหมดภายใน 3 ชั่วโมงมาแล้วCafe Praline เริ่มมาจากการเป็นโรงเรียนสอนทำขนมชื่อ Sweets Cottage มาถึง 8 ปี และเมื่อ 2 ปีหลังได้เริ่มเปิดพรีออเดอร์ครัวซองต์ ปรากฎว่าขายดีมากจนต้องจองคิวกันข้ามวัน พอมีโอกาสที่เหมาะสมจึงได้เปิดร้าน Cafe Praline ขึ้นข้างๆ โรงเรียนสอนทำขนม ซึ่งคอนเซ็ปต์ของทางร้านจะเป็นขนมในสไตล์ฝรั่งเศสและญี่ปุ่นความพิเศษของครัวซองต์ที่ร้านนี้คือ รสชาติ ความกรอบ หอม ฉ่ำเนย อีกทั้งครัวซองต์ที่ร้านจะทำมาทั้งหมด 8 รสชาติ โดยมีรสยืนพื้นที่ 5 รสชาติ ส่วนอีก 3 รสชาติจะเป็นรสพิเศษในแต่ละวัน ให้ลูกค้าที่มาซื้อได้เซอร์ไพร์สกันในทุกวัน"Plain Croissant (85 บาท)" ครัวซองต์รสชาติออริจินัลของทางร้าน หอมกลิ่นเนย กรอบนอก นุ่มหนึบด้านใน"Praline Croissant" เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน โดยจะใช้แป้งครัวซองต์ที่เป็นสูตรโฮมเมดสไตล์ฝรั่งเศสแท้ ด้านในเป็นไส้เฮเซลนัทและบัตเตอร์ครีม ด้านบนราดด้วยเฮเซลนัทผัดกับซอสคาราเมล เมนูนี้จะทานแบบเย็นไม่อุ่น"Truffle Croissant (140 บาท)" ทางร้านนำเข้าเห็ดทรัฟเฟิลมาจากอิตาลี นำมาทำเป็นทรัฟเฟิลครีม นอกจากจะได้กลิ่นทรัฟเฟิลเตะจมูกแล้วการนำชีสทั้ง 5 ชนิดมาผสมกัน ยิ่งเสริมความอร่อยให้ครัวซองต์ชิ้นนี้"Fresh Strawberry Danish (170 บาท)" เมนูพิเศษที่จะมีในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักแบบนี้ เมนูนี้ใช้แป้งชนิดเดียวกับครัวซองต์ แต่ทำเป็นทรงสี่เหลี่ยม ราดด้วยครีมชีสและสตรอว์เบอร์รีสดโดยเมนูนี้จะทานแบบเย็น"Strawberry Cream Cheese Frappe (155 บาท)" สตรอว์เบอร์รีปั่นกับครีมชีสผสมบิสกิตและท็อปด้วยสตรอว์เบอร์รีอีกที"Tiramisu Latte (140 บาท)" ด้านล่างเป็นกาแฟเย็นผสมเหล้ารีม ท็อปด้านบนด้วยมาสคาโปนครีม โรยผงโกโก้และเลดี้ฟิงเกอร์มาเติมความหวานกันได้ที่ "ร้าน Cafe Praline" อยู่ระหว่างซอยเจริญราษฎร์ 8 และ 10 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-0209-8685

  • SAHARA ตะลุยคาเฟ่ทะเลทรายสุดเก๋

    เปรี้ยวปากพาทุกคนมาโพสต์ท่าเก๋ๆ ถ่ายรูปกลางทะเลทรายกันที่ "ร้าน SAHARA" คาเฟ่ทะเลทรายเปิดใหม่ ยกเอาความร้อนแรงของทะเลทรายสะฮารามาไว้ใจกลางกรุง จัดเต็มทั้งมุมถ่ายรูปและพร็อพต่างๆ เพียบภายในร้านมีมุมถ่ายรูปหลากหลายโซน ทั้งโซน Outdoor เป็นมุมทะเลทรายผนังสีชมพูสไตล์อาหรับ และโซน Indoor สวยๆ ที่ตกแต่งด้วยผ้าและของที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแถบอินเดีย อาหรับร้าน SAHARA นอกจากจะมาถ่ายรูปแล้ว ที่นี่ยังเป็น Event Venue ที่สามารถจัดกิจกรรม ปาร์ตี้ แถมยังรวบรวมร้านอาหารชื่อดังอย่าง Enzo's เป็นอาหารในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน, Venivore 26 ร้านชาสกัดแบบออร์แกนิค และ Red Diamond ร้านกาแฟชื่อดัง ก็มาอยู่ที่นี่อีกด้วย"Kombucha Tea Passion Fruits" ชาออร์แกนิคจากร้าน Venivore 26 "Grilled Jamaican Chicken Wing" เมนูนี้ทานคู่กับซอสสูตรเปรู "Classic Cesar Salad" น้ำสลัดเป็นสูตรของทางร้าน เป็นสไตล์ South America แล้วท็อปหน้าด้วยไก่ออแกนิค"Roasted English Sausage" ไส้กรอกแบบโฮมเมดสูตรจากอังกฤษ หอมกลิ่นโรสแมรี่ ทานคู่กับซอสมะเขือเทศสูตรของทางร้านที่จะมีการใส่ผงกะหรี่ลงไปด้วย"Chicken Pie with Salad" แป้งพายเป็นแบบโฮมเมดบางกรอบ ใช้น้ำสลัดบัลซามิกที่มีส่วนผสมของน้ำองุ่นด้วยใครอยากออกมาถ่ายรูปสวยๆ ไว้อัพลงโซเชียลมากันได้ที่ "ร้าน SAHARA" อยู่ข้าง Show DC ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. (หยุดวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2111-5555

  • KORELAB รามอินทรา

    จากความสำเร็จของร้าน "KORELAB" สาขาแรกในจังหวัดอยุธยา ตอนนี้ร้านกาแฟสุดชิคได้มาเปิดสาขาใหม่ย่านรามอินทราของหนุ่มหล่อมากความสามารถ 'แกงส้ม-ธนทัต' ที่อยากให้ทุกคนได้ลิ้มลองกาแฟแบบ Specialty Coffee คุณภาพดีในราคาที่จับต้องได้และยังคงคอนเซ็ปต์ร้านสไตล์มินิมอลโทนขาวดำด้วยกาแฟของที่นี่เป็นแบบ Specialty จึงคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพที่ปลูกโดยเกษตรกรไทยในภาคเหนือ อย่างเมล็ดกาแฟกาแฟจากปางขอน จังหวัดเชียงราย"Douce-Amere" คาราเมลมัคคิอาโตที่นำกาแฟไปเชกกับคาราเมลจนนุ่ม ท็อปด้วยเลมอนและแผ่นคาราเมลเบิร์น"Dirty Latte (80 บาท)" ใช้นมสูตรพิเศษของทางร้าน ราดด้วยเอสเพรสโซ่และเสิร์ฟแบบ Ristretto"Mr. Flinstone (90 บาท)" ชาไทยผสมช็อคโกแลต โดยเมนูนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละครในเรื่อง Flinstone ลายแก้วที่เสิร์ฟจึงคล้ายกับชุดของ Flinstone"Japanese Basque Burnt Cheese Cake (140 บาท)" ชีสเค้กหน้าไม้เนื้อนุ่มแน่นหอมมันกำลังดี"เค้กมะตูม (100 บาท)" "Tua Poh (150 บาท)" สายคาเฟ่แวะมากันได้ที่ร้าน "KORELAB Specialty Coffee" อยู่บนถนนเลียบด่วนรามอินทรา วันจันทร์-พุธ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดวันพฤหัส) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-6715-6264

  • What A Drink.BKK สโลว์บาร์คาเฟ่ย่านโชคชัย 4

    คาเฟ่ Slow Bar น้องใหม่ย่านโชคชัย 4 จิบกาแฟดริปในบรรยากาศวินเทจที่ "What A Drink.BKK" คาเฟ่เล็กๆ ที่เหล่า Cafe Hopper และชาว Coffee Drip มาเยือนกันเพียบWhat A Drink.BKK ร้านกาแฟดริปน่ารักๆ ที่กำลังเป็นกระแสในโซเชียล เดิมเปิดเป็น Slow Bar เล็กๆ มีแค่โต๊ะหนึ่งตัวและอุปกรณ์ดริปกาแฟโดยเปิดเป็นช่วงๆ ไม่ได้เปิดประจำ แต่เพราะความหลงใหลในกาแฟและการดริปของ 'คุณวี' และ 'คุณอ้อนแอ้น' เจ้าของร้าน จึงมาเปิดเป็น Slow Bar ย่านโชคชัย 4คอนเซ็ปต์ของที่ร้านตั้งใจให้เป็น Slow Bar ที่ทุกคนเข้ามาพักผ่อน จิบกาแฟในบรรยากาศชิลๆ เป็นกันเองและเป็นที่รวมตัวของคนที่ชอบกาแฟดริป โดยทั้งคุณวีและคุณอ้อนแอ้นจะบอกเสมอว่าไม่ใช่บาริสต้า แต่ทุกอย่างเกิดมาจากความชอบล้วนๆ กาแฟดริปก็ตั้งใจให้เป็นการดริปแบบบ้านๆ เข้าถึงง่าย ไม่ได้ซับซ้อนเพราะความหลงใหลในของการดริปกาแฟของเจ้าของร้านที่รู้สึกว่ากาแฟดริปนั้นสามารถทานได้เรื่อยๆ และมีความเป็นเอกลักษณ์ของเมล็ดกาแฟแต่ละเมล็ด ทางร้านจึงมีเมล็ดกาแฟให้เลือกหลากหลายทั้งเมล็ดของไทยและต่างประเทศซึ่งเมล็ดกาแฟจะถูกปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นมีเมล็ดอะไรที่น่าสนใจทางร้านก็จะเอามาให้ทุกคนได้ลิ้มลองกัน"เมล็ดวีต้า (100 บาท)" เป็นกาแฟโรบัสต้าตัวแรกที่ทางร้านนำเข้ามา รสชาตินุ่ม เปรี้ยวนิดๆ"เมล็ดบราซิล (65 บาท)" รสชาติจะออกโทนนัตตี้ ช็อคโกแลต คาราเมล เหมาะสำหรับดื่มแบบเย็น หรือจะใส่นมก็เข้ากันได้ดี"เมล็ดเอธิโอเปีย (90 บาท)" หอมละมุน มีกลิ่นผลไม้และรสของเบอร์รี ตัวนี้ถ้าดื่มแบบร้อนจะเหมาะกว่า"ขุนช่างเคี่ยน (70 บาท)" ที่ปลูกบนดอยขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งของทางร้านจะเป็นแบบคั่วอ่อน รสชาติไม่เข้มมาก ออกหวานตอนท้ายนอกจากกาแฟแล้วทางร้านยังมีขนมโฮมเมดไว้ทานคู่กับกาแฟอีกด้วย "Brownie (20 บาท)" และ "Soft Baked Cookie (35 บาท)""What A Drink.BKK"  อยู่ที่โชคชัย 4 ซอย 84 แยก 2-4 วันจันทร์-อังคาร และ พฤหัส-ศุกร์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 07.00-15.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. (หยุดวันพุธ) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-4775-5608

  • Arteasia Light Garden คาเฟ่ลับๆ ย่านเยาวราช

    "Arteasia Light Garden" คาเฟ่ลับๆ บนถนนทรงวาดย่านเยาวราชที่เนรมิตตึกเก่าอายุกว่า 109 ปีให้กลายเป็นเหมือน Light Art Gallery ที่ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวยไปหมดคาเฟ่แห่งนี้ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน เน้นวัสดุทรงเหลี่ยม ตกแต่งด้วยแสงไฟสวยๆ ทำให้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความเป็นไทย-จีน โดยมุมไฮไลท์ของร้านก็คืองานศิลปะกระจก 8 ชั้น รวมไปถึงหน้าต่างทุกบานจะประดับด้วยกระจกหลากสี ทำให้เกิดแสงสีที่มีมิติทั่วทั้งร้าน ส่วนอาหารก็จะเป็นอาหารจานเดียวแนวไทยประยุกต์เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของร้าน"Arteasia Afternoon Tea Set (690 บาท)" เซตของว่างไทยโบราณยามบ่ายที่มีทั้งขนมค้างคาวเผือก, ข้าวตังหน้าตั้งน้ำพริกอ่อง, เมี่ยงใบชะพลูกุ้งสด และแตงโมปลาแห้ง"ข้าวหน้าเนื้อตุ๋นกะทิน้ำพริกข่า ไข่ต้มยางมะตูม (320 บาท)" ทางร้านใช้เนื้อลายไปตุ๋นกับซอสปรุงรสต่างๆ เคี่ยวนาน 1 ชั่วโมงจนเนื้อนุ่ม ทานคู่กับน้ำพริกข่าสูตรของทางร้าน"ข้าวไก่ทอดซอสเบคอนหวาน ไข่ยางมะตูม (270 บาท)""หมูครึ่งแดด (250 บาท)" ใช้หมูสันนอกมาหมักกับซอสปรุงรสจนเข้าเนื้อ แล้วนำไปตากแดดแค่แปบเดียว เนื้อหมูจะนุ่ม ไม่แห้งจนเกินไป"Vangogh's Night (175 บาท)" เป็นม็อกเทล 3 ชั้น ด้านล่างเป็นน้ำอัญชัน น้ำมะนาว และท็อปด้วยชาแอปเปิ้ลผสมสตรอว์เบอร์รี"Mucha's Flower" ชาแอปเปิ้ลผสมมสตรอว์เบอร์รีปิดท้ายด้วยเมนูของหวานอย่าง "Earl Grey Crofel (180 บาท)" ตัววาฟเฟิลทำมาจากแป้งครัวซองต์ หอมเนย ทานคู่กับครีมซอส Earl Grey และไอศกรีมวานิลลาตามหาร้านลับสวยๆ กันได้ที่ "Arteasia Light Garden" เลขที่ 947 ถนนทรงวาด ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 14.00-23.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-4659-6653

  • Kenn's Coffee & Croissant

    วันนี้เปรี้ยวปากพาทุกคนมาอัพเดทร้านใหม่กันที่ย่านอารีย์ที่มีแต่ของอร่อยกับ "ร้าน Kenn's Coffee & Croissant สาขาอารีย์" เป็นสาขาใหม่ล่าสุดของทางร้านโดยสาขาแรกอยู่ที่สาธร ที่สาขาอารีย์จะเน้นความเป็น Grab & Go เน้นความสดใหม่ อบกันแบบหอมกรุ่นวันละเป็นพันชิ้นเลย"ร้าน Kenn's Coffee & Croissant สาขาอารีย์" จะมีครัวซองต์ให้เลือกถึง 7 รสชาติ และ 2 รสชาติพิเศษจะมีขายเฉพาะสาขาอารียเท่านั้น คือ La Vie En Jaune และ Cherie Pretzel โดยความพิเศษของครัวซองต์ Kenn's คือความกรอบนอกนุ่มใน ด้านในไม่แห้ง มีกลิ่นหอมเนย สามารถทานได้เรื่อยๆ ทานง่ายๆ"La Vie En Jaune (125 บาท)" ด้านในเป็นไส้ครีมเสาวรสและมะม่วง รสชาติจะออกเปรี้ยวหวาน ด้านบนโรยหน้าด้วยผิวมะนาว"Cherie Pretzel (85 บาท)" ครัวซองต์รสชาตินี้จะคล้ายกับกิน Pretzel ไม่มีไส้ แต่ด้านบนจะโรยด้วยดอกเกลือ"Choco Marnier (90 บาท)" ทางร้านใช้ส้มมาเชื่อมกับเหล้านำเข้าจากฝรั่งเศส"Almond Au Rum (125 บาท)" ด้านในเป็นไส้ครีมอัลมอนด์ผสมกับเหล้ารัมมาลองชิมครัวซองต์อร่อยๆ กันได้ที่ "ร้าน Kenn's Coffee & Croissant สาขาอารีย์" อยู่ที่ซอยอารีย์ 2 วันจันทร์-ศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 07.30-15.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.

  • เฌอริ คาเฟ่ คาเฟ่เวทมนต์ริมถนนงามวงศ์วาน

    "เฌอริ คาเฟ่" คาเฟ่น่ารักๆ ที่พร้อมเสิร์ฟความสนุกในรูปแบบอาร์ตคาเฟ่ผสมผสานความแฟนตาซี ไม่ว่าจะกิน หรือจะแชะรูปลงโซเชียล รับรองว่าฟินกันแน่นอนที่เฌอริ คาเฟ่ แห่งนี้ มีความเป็น Magical อยู่ภายใน Art Cafe ด้วยภาพวาดผนัง และการตกแต่งที่ดูแฟนตาซี นอกจากนี้ยังมีมุมถ่ายรูปเยอะแยะมากมาย อย่างมุมผ้าคลุมล่องหน และมีของเล่น มีพร็อพ มีชุดให้ใส่ถ่ายรูปอีกด้วย รับรองว่าใครมาที่คาเฟ่แห่งนี้ก็เป็นต้องหลงรักกันทุกคน จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน "เฌอริ คาเฟ่" มาจากคำว่า เฌอริ ในภาษาฝรั่งเศสที่แปลว่า ที่รัก "Broom Stick (169 บาท)" เมนูนี้นำเอาเส้นหมี่มาพันกับเพรทเซลอบกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับซอสบิสติ้งสูตรของทางร้าน"Bubble Frog Cake (249 บาท)" เค้กกบที่ด้านในจะมีช็อคโกแลต ฐานแก้วเป็นคุกกี้ครัมเบิล ด้านบนท็อปด้วยสายไหม เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีม"Press Me Please (179 บาท)" น้ำกุหลาบผสมซากุระ"White Candle Cake (189 บาท)" ด้านนอกเป็นไวท์ช็อกโกแลต ด้านในเป็นเค้ก Red Velvet"เบคอนเคลือบน้ำปลา (249 บาท)" นำเบคอนมาทอดจนกรอบ ส่วนซอสน้ำปลาจะใช้น้ำปลาเคี่ยวกับน้ำตาลปี๊บจนเหนียว แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเบคอน"Mooserella (249 บาท)" ตัวรถทำมาจากไวท์ช็อกโกแลต เปิดออกมาด้านในเป็นช็อกโกแลต ด้านล่างโรยด้วยคุกกี้ครัมเบิล"Spring Roll Stick" เมนูทานเล่น ปอเปี๊ยะกุ้ง"Dementor Cocoa (169 บาท)" โกโก้ปั่น ไฮไลท์อยู่ตรงที่มีช็อกโกแลตผู้คุมวิญญาณปักมาด้านบนแก้วด้วยสำหรับใครที่ชื่อชอบโลกเวทมนต์ ชอบถ่ายรูป อยากแวะมาทานขนมอร่อยๆ มากันได้ที่ "ร้านเฌอริ คาเฟ่" อยู่ที่ โรงแรม Siam Paradise Entertainment Complex ชั้น 2 ซอยงามวงศ์วาน 51 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น.(หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-9898-9890

  • Heaven On Earth X ชั้นขนมหวาน

    อิ่มอร่อยกับขนมไทยในคอนเซ็ปต์สววรค์บนดินของ "ร้าน Heaven On Earth x ชั้นขนมหวาน" ร้านขนมหวานสุดเก๋แถววงเวียนโอเดียน ที่ตัวขนมผสมผสานระหว่างความเป็นไทย ฝรั่ง และญี่ปุ่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้เกิดความอร่อยใหม่ๆ ที่ชวนให้ลิ้มลอง และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศร้านสวยๆคุณเอิร์ท-ศัลย์ อิทธิสุขนันท์ เจ้าของร้านเล่าให้ฟังว่า "สมัยเด็กๆ เป็นคนชอบทานขนมไทยมาก พอได้เข้าวงการ ได้เจอคนเยอะ ได้รู้สูตรต่างๆ มากขึ้น จึงมาเริ่มทำขนมไทยโดยตั้งใจที่จะปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ขนมไทยให้แปลกตา มีรสชาติใหม่ และเลือกใช้แต่ของดีมีคุณภาพ รสชาติไม่หวานมาก ให้เหมือนกับที่ทำทานเอง ตามคอนเซ็ปต์ 'ขนมไทยใส่ไอเดีย ขนมหวานพอดีคำ' "ที่ร้าน Heaven On Earth X ชั้นขนมหวาน จะแบ่งขนมออกเป็น 3 ส่วน คือ- ขนมไทยแบบดั้งเดิม- ขนมไทยประยุกต์- ขนมคิดใหม่ เป็นขนมประเภทฟิวชั่นที่มีการผสมผสานระหว่างความเป็นไทยกับขนมต่างชาติ"บัวลอยแห้ง" หรืออีกชื่อที่เรียกกันว่าบัวลอยซ่อนหา เพราะจะมีหลายไส้ผสมกัน"Hi Tea Set" มีทั้งหมด 3 ชุด โดยแต่ละชุดลูกค้าสามารถเลือกขนมเองได้ หรือจะให้ทางร้านเลือกให้ก็ได้- ชุด A เซตขนมสด มี 7 คำ ประกอบด้วย ขนมชั้น, ลูกชุบ, กลีบลำดวน, วุ้นแก้ว, ผกากรอง, เม็ดขนุนกับทองหยอดเสียบไม้มาด้วยกัน หรือที่ร้านเรียกว่าคู่ทอง แล้วก็ฝอยทองที่ใส่ถั่วอบควันเทียนมาด้วย ทำให้ช่วยลดความหวาน และได้สัมผัสกรุบๆ เวลาเคี้ยว- ชุด B เซตขนมสด มี 8 คำ จะมีกุหลาบแก้วฝอยทอง คือเอาฝอยทองไปทำเป็นวุ้นแก้ว ข้าวเหนียวดำสังขยา วุ้นแก้ว ขนมชั้น และขนมมงคล- ชุด C เซตของว่างคาวหวาน เซตนี้จะมีทั้งหมด 10 คำ มีกระทงทอง, ช่อม่วง, จีบนก, ขนมชั้น, ลูกชุบ แล้วก็ขนมมงคลต่างๆ"ชีสทาร์ตข้าวเหนียวมะม่วง" มะม่วงช่วงนี้จะใช้เป็นมะม่วงอกร่องทอง ตัวทาร์ตทำจากกลีบลำดวน ส่วนชีสจะปั่นเนื้อมะม่วงเข้าไปด้วย และมีชั้นข้าวเหนียวแทรกอยู่ด้วย"ทาร์ตแกงบวด" มีความพิเศษตรงแป้งทาร์ตที่ไม่ได้ทำเหมือนขนมฝรั่ง แต่จะใช้ตัวขนมกลีบลำดวนมาทำแทน"ผกากรอง" ช่วงนี้ทางร้านได้สตรอว์เบอร์รีมาจึงเอามาทำเป็นไส้ผกากรอง โดยใส่เข้าไปทั้งลูกเลยทำให้ไซส์ใหญ่กว่าปกติใครที่ชื่นชอบขนมไทยมาลองทานกันได้ที่ "ร้าน Heaven On Earth x ชั้นขนมหวาน" อยู่ที่วงเวียนโอเดียน ติดกับวัดไตรมิตร ถนนเจริญกรุง ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-6374-7878

  • Chufang คาเฟ่สไตล์จีนย่านจุฬาฯ

    ไม่ว่าจะมา จุฬา-สามย่าน กี่ครั้งก็มีอะไรอินเทรนด์อยู่ตลอด วันนี้เปรี้ยวปากจึงพาทุกคนมาที่ "ร้าน Chufang (ฉูฝาง)" อยู่ในโครงการดราก้อนทาวน์ แลนด์มาร์คใหม่สไตล์จีนโบราณผสมผสานความเป็นโปรตุเกสที่กำลังดังในโซเชียลที่มาของชื่อร้าน "Chufang (ฉูฝาง)" นั้นมาจากภาษาจีนที่แปลว่า 'ห้องครัว' โดยที่แต่ก่อนตึกของร้านด้านบนเป็นที่พักจึงอยากให้ร้านมีความรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน และพอเป็นร้านอาหารจึงอยากให้ร้านกลายเป็นห้องครัวของบ้านเมนูของที่ร้านจะเน้นเป็นเมนูข้าวอบต่างๆ ที่เป็นสูตรสืบทอดมาจากอาม่าของเจ้าของร้าน หรือถ้าใครชอบทานเส้นก็มีเมนูเส้นให้เลือกอีกด้วย"ข้าวอบสะโพกไก่ (89 บาท)" ใช้สะโพกไก่มาปรุงรสด้วยสามเกลอและเครื่องปรุงต่างๆ ตุ๋นประมาณชั่วโมงครึ่งจนได้เนื้อที่นุ่มชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยซอสสูตรของทางร้าน"ข้าวอบซี่โครงหมู (99 บาท)" ตุ๋นด้วยซอสสูตรของอาม่า เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ ซึ่งทุกเมนูก่อนเสิร์ฟจะนำไปอบพร้อมกับข้าวประมาณ 5-7 นาทีก่อนเสิร์ฟ"ตัน ตัน เมี่ยน (108 บาท)" เส้นบะหมี่ที่ใช้เป็นเส้นแบบแบนหนึบหนับ เสิร์ฟพร้อมกับไข่แดงและซี่โครงหมูอบมาแบบเปื่อย ราดด้วยซอสปรุงรสหม่าล่าและเมนูทานเล่นที่หาทานยากอย่าง "ฝันโก๋ (ชุดละ 39 บาท/ เพิ่มชีส 15 บาท)" ติ่มซำสไตล์แต้จิ๋ว ข้างในเป็นไส้หมู มีแป้งทั้งหมด 3 สี 3 รสชาติ ออริจินัล ฟักทอง และมันม่วงมาทานอาหารจีนอร่อยๆ และถ่ายรูปสวยๆ ไว้เปลี่ยนโปรไฟล์ มากันได้ที่ "ร้าน Chufang" อยู่ที่ซอยจุฬาฯ 5 อยู่หลังศาลเจ้าโครงการดราก้อนทาวน์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. (หยุดวันอังคาร) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-4447-9963

  • Old Day Bloom Cafe คาเฟ่สุดคิ้วท์ใจกลางสยาม

    "Old Day Bloom Cafe" ร้านคาเฟ่ที่ฮอตฮิตในโซเชียล เด็ดทั้งเครื่องดื่มและขนมที่มีจากสูตรมาจากคุณเกรซเจ้าของร้าน ทุกจานก็ตกแต่งด้วยดอกไม้ทานได้ เพิ่มความน่ารักให้กับเมนูและเพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ของชื่อร้านอีกด้วย"Chocolate Cake" เค้กช็อกโกแลตเข้มข้น แป้งนุ่มละลายในปาก ทานคู่กับวิปครีมเนื้อแน่นที่ตีเอง"Basque Burnt Cheesecake" หรือชีสเค้กหน้าไม้ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสสตรอว์เบอร์รี"Carrot Cake" สำหรับคนรักสุขภาพ ทานได้ไม่รู้สึกผิด เพราะตัวเค้กทำมาจากแครอทและพีแคน"Blueberry Yogurt Crumble Cake" เมนูใหม่ล่าสุดของทางร้าน ตัวเค้กท็อปด้านบนด้วยบลูเบอร์รีหอมๆ ผสมกับครัมเบิ้ลมาถึงเมนูเครื่องดื่มอย่าง "Sunset You" สตรอว์เบอร์รีส้มโซดา หวานอมเปรี้ยวนิดๆ ทานแล้วจะรู้สึกสดชื่น"Cocoa Mint" โกโก้รสชาติเข้มข้นผสมกับมิ้นท์หวานหอม เข้ากันได้อย่างลงตัวตามมาเช็คอินคาเฟ่น่ารักๆ ได้ที่ "ร้าน Old Day Bloom Cafe" อยู่ที่สยามสแควร์ ซอย 2 ชั้น 2 ของร้าน Daddy and The Muscle Academy ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-3416-4659

  • Everyday Moo Krata Cafe & Bar

    สายปิ้งย่างต้องถูกใจกับร้าน "Everyday Moo Krata Cafe & Bar" ร้านหมูกระทะวิว Rooftop ย่านสีลม จัดเต็มทั้งหมู เบคอน ซีฟู้ดแน่นๆ ทานไปชมวิวกรุงเทพไปแบบเพลินๆ ที่นี่นอกจากด้านบนจะเป็นร้านหมูกระทะวิว Rooftop แล้ว ด้านล่างยังเป็นคาเฟ่สไตล์มินิมอลถ่ายรูปสวย แล้วความมินิมอลนี้ก็ยังมาถึงโซนหมูกระทะอีกด้วย"หมูกระทะ (เริ่มต้นที่ 399 บาท} 499 บาท, 599 บาท และ 1,200 บาท)"นอกจากนี้ยังมีเมนูทานเล่นแนะนำอย่าง "เห็ดทอด" และ "ยำหมูยอไข่แดงเค็ม"แวะมาทานหมูกระทะในบรรยากาศ Rooftop แบบนี้ได้ที่ "ร้าน Everyday Moo Krata Cafe & Bar" อยู่ติดกับซอยนราธิวาส 2 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-5724-4521 หรือ Line@: @everyday.bangkok

  • in the pink @ Blunos ที่อีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ

    "in the pink @ Blunos" ร้านของเชฟมาร์ติน บลูโนส ตั้งอยู่ริมสระว่ายน้ำบนชั้น 14 Rooftop ของโรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ ในห้องอาหารบลูโนส ซึ่งคอนเซ็ปต์ in the pink นั้นมีความตั้งใจจะสื่อถึงแนวอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพควบคู่กับความสดใสในประเทศอังกฤษ คำว่า 'in the pink' เป็นคำพูดเปรียบเสมือนการเริ่มต้นใหม่และยังใช้เรียกเด็กเกิดใหม่อีกด้วย ซึ่งนอกจากนี้ยังต้องการสื่อถึงสิ่งที่สดใหม่และน่าตื่นเต้น สิ่งที่ 'in the pink' รังสรรค์ขึ้นมาไม่ใช่เพียงแค่อาหารที่จะทำให้รู้สึกดีจากภายใน แต่ทุกคนยังสามารถถ่ายรูปและสนุกไปกับสีสันต่างๆ ภายในร้านได้อีกด้วย"Egg & Fries (220 บาท)" เมนูไฮไลท์ที่นำเสนอมาในรูปแบบของอาหารเช้าที่ใช้กรีกโยเกิร์ตมาทำเป็นไข่ขตุ๋นาว แอปริคอตุ๋นมาทำเป็นไข่แดง ราดด้วยน้ำผึ้ง เสิร์ฟคู่กับฝรั่งสดที่มาในรูปมันฝรั่งทอด ราดด้วยซอสราสเบอร์รีและสตรอว์เบอร์รีแทนซอสมะเขือเทศ สร้างความแปลกใหม่ในการรับประทาน แต่เป็นเมนูที่เต็มไปด้วยโปรตีนและวิตามินที่มีประโยชน์"Pretty In Pink (250 บาท)" สตรอว์เบอร์รีแช่แข็งปั่นกับโยเกิร์ต แล้วเอาไปแช่แข็งขึ้นรูปโคนให้เหมือนกับกระโจมของชาวอินเดียแดง ราดด้วยซอสเบอร์รี และตกแต่งด้วยวุ้นกะทิรูปหัวใจ"Tropical Green (290 บาท)" ส่วนผสมหลักของเมนูนี้คือสาหร่ายสไปรูลินาที่มีวิตามินอ บีตา-แคโรทีน และธาตุเหล็กสูง ผสมด้วยกล้วยหอมที่ให้พลังงานและใยอาหาร นมอัลมอนด์ที่ให้แคลเซียมและโปรตีนสูง เสิร์ฟพร้อมผลไม้สดและกราโนลา"Sexy Coconut (190 บาท)" มะพร้าวสดปั่นกับแตงโมสด ใส่น้ำมะพร้าวและน้ำผึ้งเล็กน้อยแทนน้ำตาล เพราะดีต่อสุขภาพ เมนูนี้เหมาะกับซัมเมอร์แบบนี้และให้ความสดชื่นสุดๆ"Pinkadelic (190 บาท)" เมนูเครื่องดื่มที่ใช้เสาวรส สับปะรด และ Low Fat โยเกิร์ตมาปั่นกับนมอัดเม็ดจิตรลดาเพื่อเพิ่มความมัน แล้วท็อปด้วยน้ำกระเจี๊ยบให้ไล่สีทูโทนสวยงามมาชิมอาหารเพื่อสุขภาพดีๆ และบรรยากาศสวยๆ บน Rooftop ได้แบบนี้ที่ "ร้าน in the pink @Blunos" อยู่ที่ห้องอาหารบลูโนส ชั้น 14 โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2210-8100 ต่อ 7524

  • Palo Cafe & Studio

    คาเฟ่น้องใหม่มาแรงที่เนรมิตให้นิวยอร์คอยู่แค่ซอยวิภาวดี "ร้าน Palo Cafe & Studio" ที่จัดเป็นสตูดิโอเปิดโปรเจคเตอร์ฉายภาพสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ในนิวยอร์ค ให้ทุกคนได้มาถ่ายรูปเหมือนอยู่นิวยอร์คกันเลยทีเดียว ซึ่งมุมโปรเจคเตอร์ตรงนี้ก็เป็นมุมซิกเนเจอร์ที่ใครมาก็ต้องแวะถ่ายรูปที่ร้านนอกจากจะเป็นสตูดิโอแล้วยังเป็นคาเฟ่สไตล์โฮมมี่น่ารักๆ ที่เหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน โดยตัวร้านเดิมเป็นบ้านเก่าที่นำมารีโนเวทใหม่ทั้งหมดแต่ยังคงโครงสร้างเดิมไว้ มีมุมถ่ายรูปหลากหลายทั้งมุมเปียโน มุมโซฟา หรือแม้แต่หน้าร้านก็เป็นมุมเช็คอินของที่นี่เดิมที่นี่เป็นสตูดิโอถ่ายภาพเพียงมาก่อนซึ่งเกิดจากเจ้าของและกลุ่มเพื่อนไลฟ์สไตล์เดียวกัน ต่อมาจึงเปิดเพิ่มในโซนคาเฟ่ซึ่งทุกอย่างก็จะเป็นสไตล์โฮมเมด เป็นเมนูทานง่ายๆ เน้นวัตถุดิบดีๆ จากหลายที่มารวมกันเริ่มด้วยเมนูซิกเนเจอร์ที่มีชื่อเดียวกับร้าน "ข้าวซี่โครงหมูพะโล้ขลุกขลิก (99 บาท/ เพิ่มไข่ดาว 10 บาท)" คลุกข้าวทานได้ง่ายๆ ตัวหมูก็ใช้เป็นซี่โครงหมูแทนหมูสามชั้น เสิร์ฟมาพร้อมกับไข่ เลือกได้ว่าจะเป็นไข่ดาวหรือไข่เจียวต่อด้วยเมนูใหม่ของทางร้าน "สปาเกตตีทรัฟเฟิลครีมซอส (249 บาท)" เส้นสปาเกตตีหนึบกำลังดี ตัวครีมหอมละมุนกลิ่นเห็ดทรัฟเฟิลสายกาแฟอยากให้ลองเมนู "Bael-Cano (110 บาท)" หรือกาแฟมะตูม เมนูนี้ใช้เมล็ดกาแฟจากเชียงราย หอมกลิ่นมะตูมกับน้ำตาลทรายแดง เสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อมะตูมสับ"Palooo-Ha (110 บาท)" ชาหมักสูตรพิเศษผสมกับน้ำสับปะรดและน้ำมะนาว ท็อปด้วยเครื่องเทศพะโล้และไข่ต้มที่ทำมาจากส้มและลิ้นจี่ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานแสนอร่อย "Banoffee Pie (129 บาท)" "Lime Cheesecake (129 บาท)" ตรงกลางมีซอสมะนวเป็นเลเยอร์มานั่งทานอาหารสบายๆ ได้รูปสวยๆ กลับไปที่ "ร้าน Palo Cafe & Studio" อยู่ในซอยวิภาวดีรังสิต 22 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.30 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-2924-6638

  • Chim Chim เสพงานศิลป์ฟินเมนูอร่อย

    เที่ยวชมงานอาร์ตในบรรยากาศ Art-Inspired Social Diner กันที่ "ร้าน Chim Chim" ที่เป็นทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร แกลลอรี่และ Workshop Space พร้อมเมนูสไตล์โฮมมี่ที่คัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี มาที่เดียวเสพได้ทั้งงานศิลป์และฟินกับเมนูอร่อยแบบจัดเต็มกันไปเลยตอนนี้ที่โซนแกลลอรี่ของ "ร้าน Chim Chim" กำลังจัดแสดงผลงานของศิลปินดูโอชาวฝรั่งเศส 'Munchausen' ชื่อนิทรรศการ 'ของฝากจากความทรงจำ' เป็นการสร้างงานศิลปะจากรูปภาพที่ถ่ายมา แล้วนำมาสร้างสรรค์ให้เป็นภาพที่มีสีสันสดใส ซึ่งโซนนี้จะมีนิทรรศการศิลปะเปลี่ยนไปตลอดทั้งปีเมนูอาหารของที่นี่ก็มีหลากหลาย ทั้งมื้อเช้า กลางวัน เย็น รวมทั้ง Brunch มีให้บริการตลอดทั้งวัน ด้วยคอนเซ็ปต์ที่เน้นใช้วัตถุดิบท้องถิ่น อย่างเมล็ดกาแฟก็ใช้เมล็ดจากเชียงราย ชาก็ใช้จากป่าในภาคเหนือของไทย"Pizza Carbonara (ไซส์เล็ก 270 บาท /ไซส์ใหญ่ 350 บาท)" เมนูพิซซ่ายอดฮิตของทางร้าน ซิกเนเจอร์อยู่ที่ตัวแป้งทำจากแป้งซาวโดวจ์ที่หมักไว้ 48 ชั่วโมง ทำให้ตัวแป้งมีรสชาติมากขึ้น เสิร์ฟมาพร้อมกับไข่สด"Hoki Poke Salad (300 บาท)" สลัดซิกเนเจอร์ของทางร้าน ใช้ผักเกล็ดหิมะที่มีลักษณะพิเศษคือเป็นผักที่มีความกรอบ เนื้อฉ่ำ นำมาคลุกเคล้ากับน้ำส้มสลัดพอนซึแบบญี่ปุ่นและเนื้อทูน่า"Avo & Lox Bagel (370 บาท)" หนึ่งในเมนูอาหารเช้าที่ทางร้านแนะนำ เมนูนี้ทำจากแซลมอนแช่น้ำเกลือที่ทางร้านทำเอง ทาด้วยครีมชีสผสมเคเปอร์ อะโวคาโดบด และขนมปังเบเกิลโฮมเมด ทานคู่กับ Egg Benedict"Catch Of The Day (ราคาขึ้นอยู่กับประเภทของปลาในแต่ละวัน)" ความพิเศษของจานนี้อยู่ที่วัตถุดิบที่ไม่เหมือนกันในแต่ละวัน วันไหนได้ปลาอะไรมาก็จะนำมาทำเมนูนี้ โดยจะใช้ปลาจากชาวประมงจังหวัดชุมพรที่ส่งมาสดๆ ให้กับทางร้าน เอามาย่างแล้วเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งผัดและซอสเคเปอร์ โรยด้วยผักชีลาวเพิ่มความหอม"Pasta Tiger Prawns (550 บาท)" พาสต้าเส้นเฟตตูชินี ผัดกับซอสครีมมะเขือเทศ เสิร์ฟพร้อมกุ้งลายเสือตัวโต บีบมะนาวเพิ่มรสชาติจัดจ้านเข้าไปอีก"Pom Smoothie (150 บาท)" เมนูเครื่องดื่มที่ทำจากเสาวรส ส้ม และมะม่วง รสชาติหวานหอม เปรี้ยวสดชื่น"Mint Mocha Frappe (130 บาท)" เป็นเอสเปรสโซดับเบิลช็อต และเพิ่มความหอมด้วยมิ้นท์มาเที่ยวเสพงานศิลป์และฟินกับอาหารอร่อยๆ ได้ที่ "ร้าน Chim Chim" อยู่บนชั้น G โรงแรม Siam @Siam Design Hotel ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2217-3000

  • Arbor Cafe and Cooking Studio คาเฟ่สุดชิคย่านตลาดน้อย

    "Arbor Cafe and Cooking Studio" เป็นคาเฟ่สไตล์ Modern in the Classic ที่เก็บความคลาสสิคของโครงสร้างเก่าเอาไว้และเพิ่มความโมเดิร์นเข้ามา พร้อมกับตกแต่งเพิ่มความสดชื่นด้วยดอกไม้สดและก็มี Cooking Studio หลากหลายคลาสทำขนมให้เลือกเรียน และยังมี Birthday Cake หรือถ้าใครอยากตกแต่งหน้าเค้กเอง ทางร้านก็มี Artist Design Cake ไว้ให้บริการขนมทุกอย่างของที่ร้านเป็นสไตล์โฮมเมดที่ผ่านการคิดสูตรทดลองมาจนกลายเป็นขนมและเครื่องดื่มกว่า 40 เมนู หมุนเวียนไปเรื่อยๆเริ่มด้วยเมนูแนะนำ "Vanilla Almond Croissant (85 บาท)" เป็นสูตรที่เน้นกรอบนอก ชุ่มฉ่ำด้านใน และใช้เนยนำเข้าจากฝรั่งเศส"Mocha Macadamia (145 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ เป็นเค้กเนื้อวานิลลา ครีมกาแฟ ทีเด็ดอยู่ที่ซอสแมคคาเดเมียเคลือบคาราเมล"Chocolate Mixed Berry (155 บาท)" เมนูช็อคโกแลตที่ปั่นรวมกับมิกซ์เบอร์รี ด้าบนท็อปด้วยฟองนมนุ่มๆ และเบอร์รีต่างๆ"Cream Cheese Carrot Cake (105 บาท)" เค้กเนื้อแน่นที่อัดเต็มไปด้วยแครอทมากกว่า 80% หอมซินนามอน ปาดด้วยครีมชีสสูตรพิเศษของทางร้านอีกหนึ่งเมนูสำหรับเหล่า Chocolate Lover "Blueberry Chocolate Mousse (95 บาท)" "Spocky Rose Apples (155 บาท)" เป็นกาแฟผสมกับน้ำแอปเปิล และกาแฟของที่นี่ทั้งหมดเป็นแบบคั่วกลาง ความพิเศษอยู่ที่คั่วกับผลไม้อบแห้ง จึงทำให้มีกลิ่นหอมผลไม้อบแห้งอยู่ทุกตัวใครที่มองหากิจกรรมหรืออยากลองมาทำเค้กด้วยตนเองก็มากันได้ที่ "Arbor Cafe and Cooking Studio" อยู่หัวมุมปากซอยเจริญพานิช ถนนทรงวาด ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-8292-1969

  • Malee Brew & Bloom คาเฟ่ดอกไม้สไตล์มินิมอล

    อีกหนึ่งคาเฟ่น้องใหม่ที่หัวมุมสี่แยกบ้านหม้อ "Malee Brew & Bloom" ที่แค่เข้าไปในร้านก็อบอวลไปด้วยกลิ่นของดอกไม้และกาแฟหอมๆ สมชื่อร้าน กับมุมถ่ายรูปที่ถูกจัดด้วยดอกไม้สดในตึกเก่ากว่า 100 ปี และเมนูเบเกอรี่โฮมเมดอร่อยๆ รับรองว่าสายคาเฟ่ถูกใจแน่นอนภายในร้านตกแต่งเป็นสไตล์ Thai Minimalist ที่ทั้งสวยแล้วก็คลาสสิคมากๆ เพราะถูกเนรมิตจากตึกเก่าอายุกว่า 100 ปี ให้กลายเป็นสวนดอกไม้สดที่จะผลัดเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามเทศกาลต่างๆเมนูขนมต่างๆ จะมีความเป็นไทยอยู่ด้วย ให้เข้ากับบรรยากาศของร้านซึ่งขนมที่ร้านจะเป็นแบบโฮมเมด และจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือขนมทุกอย่างจะไม่เน้นหวานมาก เพื่อให้ทานเข้ากันกับกาแฟของที่ร้าน"Coconut Tart (165 บาท)" ด้านในเป็นไส้ครีมชีส ส่วนด้านบนเป็นครีมสดมะพร้าว ราดมาด้วยน้ำกะทิซึ่งจะใช้มะพร้าวน้ำหอมคัดพิเศษมาทำ"Lemon Tart (170 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน แป้งทาร์ตกรุบกรอบตัดกับครีมเลมอนที่มีส่วนผสมทั้งน้ำและผิวเลมอน ส่วนด้านบนจะเป็น Meringue"Carrot Cake (170 บาท)" เค้กเนื้อแน่น ด้านบนเป็นครีมชีสเปรี้ยวอมหวาน เหมาะทานกับกาแฟ"Siam Rose (200 บาท)" เครื่องดื่มเก๋ๆ ที่เสิร์ฟมาพร้อมดรายไอซ์ เมนูนี้มีส่วนผสมของไซรัปกุหลาบ ลิ้นจี่ เลมอน แล้วก็กาแฟมาเชครวมกัน"Into The Woods (220 บาท)" เครื่องดื่มซิกเนเจอร์ที่ใช้เมล็ดกาแฟ Ethiopia & Columbia มาสกัด Cold Brew นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของน้ำผึ้งจากฟาร์มออร์แกนิค และใบชาสูตรพิเศษที่เบลนด้วย กลีบกุหลาบ & มะม่วง ทำให้หอมสดชื่น เวลาดื่มเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติตามชื่อเมนูเลยมาตามรอยคาเฟ่ดอกไม้สวยๆ กันได้ที่ "ร้าน Malee Brew & Bloom" อยู่หัวมุมสี่แยกบ้านหม้อ วันอังคาร-ศุกร์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-19.00 น. (หยุดวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2165-0798

  • คุ้น.เคย Eatery, Cafe & Bar

    "คุ้น.เคย Eatery, Cafe & Bar" ร้านอาหารใต้แบบหรอยแรงย่านรัชดาที่ส่งตรงจาก อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ตัวร้านเป็นบ้านเก่าอายุหลายสิบปีที่ถูกดัดแปลงให้เป็นคาเฟ่อาหารใต้ ซึ่งที่มาของชื่อร้าน 'คุ้นเคย' นั้นมาจากคำว่า 'เคย' ที่สื่อได้ถึง 2 ความหมายคือ กะปิในภาษาใต้ และอยากให้ลูกค้ามานั่งทานข้าวเหมือนอยู่ที่บ้านแบบคุ้นเคย จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน 'คุ้นเคย' แห่งนี้เริ่มด้วยเมนูซิกเนเจอร์อย่าง "สะตอผัดกุ้ง (220 บาท)" ที่ทางร้านใช้กะปิอย่างดีจากกุ้งเคยที่มีกลิ่นหอมชัดเจน"แกงหมูฟักทอง (180 บาท)" เมนูอาหารใต้หาทานยาก ใช้หมูติดมันหมักมาเคี่ยวกับเครื่องแกงพริกใต้และกะทิ"แกงพริกกระดูกหมู (160 บาท)" กระดูกหมูเคี่ยวในพริกแกงนานกว่า 2 ชั่วโมง จนเปื่อยนุ่ม"ต้มหมูใบชะมวง (160 บาท)" เมนูนี้จะไม่เหมือนกับทางจันทบุรี จะเป็นซุปใสแบบใต้ ใช้เวลาเคี่ยวกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อให้ได้รสเปรี้ยวปิดท้ายด้วยของหวานชื่นใจ "น้อยหน่านมสด (55 บาท)" น้อยหน่าในรูปแบบน้ำแข็งใสอัดก้อน ช่วยดับความเผ็ดร้อนของเครื่องแกงใต้ได้ดีสายอาหารใต้ต้องมาลองความเผ็ดร้อนถึงเครื่องพริกแกงกันที่ "คุ้น.เคย Eatery, Cafe & Bar" อยู่ที่ซอยรัชดาภิเษก 7 นาทองแยก 6 ร้านเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-3264-9888

  • บ้านย่า คาเฟ่(Banya Cafe) คาเฟ่วินเทจย่านห้วยขวาง

    เอาใจเหล่า Cafe Hopper กับคาเฟ่ลับบนถนนรัชดา "บ้านย่า คาเฟ่(Banya Cafe)" ในบรรยากาศโฮมมีที่มีขนมโฮมเมดอร่อยๆ พร้อมกับเครื่องดื่มสุดครีเอทร้านบ้านย่าคาเฟ่ถูกดัดแปลงมาจากบ้านเก่าของคุณย่าเจ้าของร้าน เดิมทีทำเป็น Hostel ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าพัก ต่อมาจึงได้ไอเดียดัดแปลงชั้น 1 มาทำเป็นคาเฟ่แบบจริงจัง คอนเซ็ปต์ร้านก็จะเป็นแบบโฮมมี่ ตัวร้านและของตกแต่งเป็นสไตล์วินเทจและเสริมด้วยของสตรีทตามความชอบของเจ้าของร้าน ให้บรรยากาศเหมือนนั่งเล่นอยู่ในบ้านเมนูเครื่องดื่มและขนมของร้านเป็นแบบโฮมเมด ขนมเป็นสูตรของคุณแม่เจ้าของร้านซึ่งจะเลือกใช้วัตถุดิบแบบพรีเมียม เพราะอยากให้คนที่ทานได้รู้สึกเหมือนขนมที่ทำทานกันในบ้าน และขนมเกือบทุกตัวจะไม่เน้นหวาน ส่วนเครื่องดื่มแต่ละตัวได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนังที่เจ้าของชื่นชอบ นำมารังสรรค์เป็นเครื่องดื่มที่เป็นเอกลักษณ์ของหนังเรื่องนั้นๆ "Marbel Cheesecake (170 บาท)" เป็นชีสเค้กผสมกับช็อกโกแลตทำลวดลายออกมาให้เหมือนหินอ่อน โรยหน้าด้วยช็อกโกแลต Sarath ซึ่งเป็นแบรนด์ของคนไทยที่มีรางวัลการันตีอีกด้วย"Raspberry Whitechoc Cheesecake (170 บาท)" ชีสเค้กไวท์ช็อกโกแลตที่ไม่มีน้ำตาล ตัดกับรสเปรี้ยวของราสป์เบอร์รี ส่วนด้านล่างจะเป็นเนื้อบัตเตอร์เค้ก"Lemon Meringue Pie (150 บาท)" "Brownie (70 บาท)" สูตรดาร์คช็อกโกแลตเข้มข้น ผสมกับอัลมอนด์ที่ไม่เน้นหวานเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ "Kathleen Kelly (120 บาท)" เป็น Honey Latte ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่อง You've Got Mail ด้านบนโรยด้วยผงซินนามอน ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเทศกาลคริสต์มาสที่เป็นธีมของหนังปักหมุดรัชดาคาเฟ่ในบรรยากาศอบอุ่น นั่งทานขนม ดื่มเครื่องดื่มชิลๆ กันได้ที่ "บ้านย่า คาเฟ่(Banya Cafe)" อยู่ที่ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 5 ร้านเปิดจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดวันพฤหัส) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-6574-1612

  • Fics คาเฟ่ของคนรักหนัง

    "ร้าน Fics" คาเฟ่ที่รวมตัวของคนรักหนัง โดยชื่อร้าน Fics มาจาก F = Film, I = Inspired, C S = Coffee Shop ตกแต่งร้านสไตล์มินิมอลและได้กลิ่นอายความคลาสสิกของโรงหนังบริเวณหน้าร้านก็ทำเป็นเหมือนโรงหนัง Stand Alone ยุคเก่าที่ทั้งเท่และอาร์ตให้แวะถ่ายรูปสวยๆ ก่อนเข้าไปในร้าน และที่บริเวณชั้น 3 ยังมีโซน Poster District ที่รวมโปสเตอร์หนังหายากมากมาย โดยจะเป็นโปสเตอร์หนังคลาสสิกในยุค 70s-80s เลยในส่วนของคาเฟ่นั้น เมนูต่างๆ ก็ครีเอทมาจากภาพยนตร์ชื่อดัง เริ่มด้วย "Call me by your name (135 บาท)" ที่ร้านเลือกฉากจำของหนังอย่างฉากที่ตัวเอกกินพีชซึ่งมีความหมายแฝงอยู่ด้วย และแบล็คกราวน์ของหนังเรื่องนี้ก็จะเล่าในช่วงหน้าร้อนของประเทศอิตาลีในยุค 80 จึงได้เมนูนี้ที่เหมาะกับหน้าร้อนสุดๆ ส่วนผสมก็จะมีชาพีช โซดา มะนาว และใบมินต์"Blue is the warmest colour (125 บาท)" เป็นแนว LGBT จะคล้ายๆ กับ Call me by your name แต่จะเล่าในมุมมองของสาวๆ จุดเด่นของเรื่องนี้อยู่ที่ตัวเอกที่มีผมสีฟ้าและความรักที่ค่อนข้างเศร้า จึงครีเอทออกมาเป็นเมนูนี้ที่ใช้นมไวท์ช็อกโกแลตผสมอัญชันอุ่นๆ และเพิ่มกลิ่นหอมด้วยชินนามอนเผา"Clockwork Orange (140 บาท)" เนื้อเรื่องของหนังจะค่อนข้างดาร์ก รุนแรง วุ่นวายนิดๆ มีแฝงคอมเมดี้ที่เป็นตลกร้ายเข้ามา จึงครีเอทออกมาใช้ดาร์กช็อกโกแลตเป็นเบสความเข้ม ขม และเพิ่มความสดชื่นด้วยซอสส้ม จึงจะเห็นเป็นเลเยอร์สีดำตัดกับส้มที่ดูวุ่นวายนิดๆ"Amelie (135 บาท)" หนังดังจากฝรั่งเศส เป็นหนังแนวโรแมนติกคอมเมดี้ การันตีด้วยรางวัลมากมาย ซึ่งเมนูนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของชาวฝรั่งเศส จึงครีเอทออกมาเป็นลาเต้เย็นและมีแยมราสเบอร์รีเข้มข้นด้างล่างที่ทางร้านเคี่ยวเองแบบโฮมเมดรับรองว่าคนรักหนังจะต้องหลงรักที่นี่แน่นอน "ร้าน Fics" อยู่ที่สุขุมวิท 31 โซน Cafe เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-17.30 น. และโซน Poster District เปิดตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์)

  • Volks คาเฟ่เบเกิลสุดชิคย่านประดิพัทธ์

    "ร้าน Volks" คาเฟ่เบเกิลสุดชิคที่ไม่ต้องไปไกลถึงนิวยอร์กก็มีให้ทานที่ซอยประดิพัทธ์ 13 โดยร้านนี้เกิดจากความชื่นชอบจนกลายเป็นแฟนคลับเมนูเบเกิลของเจ้าของร้าน เลยครีเอทเมนูเบเกิลที่มีเฉพาะร้าน Volks เท่านั้นขึ้นมา'Begal' เป็นเมนูอาหารเช้ายอดฮิตของนิวยอร์ก โดยส่วนใหญ่จะทานกับครีมชีส แซลมอนรมควัน และหอมแดงหั่นขนมปังเบเกิลโฮมเมดของที่ร้านมีให้เลือกถึง 12 แบบ และยังมีไส้สำหรับแซนวิชเบกิลอีกถึง 4 อย่าง ใครชื่นชอบแบบไหนก็สามารถเลือกมิกซ์เองได้เลย"Bacon, Egg, and Cheddar with everything (240 บาท)" เมนูคลาสสิกที่มีความคล้ายกับแซนวิชเบเกิลที่คนนิวยอร์กนิยมทานตอนเช้า เบเกิล Everything ไส้เป็นสโมกเบคอน ไข่ และชีสเยิ้มๆ"Smoked salmon and Capers with Jalapeno cheddar (280 บาท)" แซลมอนที่ใช้นำเข้าจากนอร์เวย์ มีครีมชีส หอมแดง เคเปอร์ กับเบเกิลที่มีพริก Jalapeno และเชดด้าชีส"Banana Hazelnut French Toast (200 บาท)" เมนูนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากขนมในสวนสนุกที่ทานง่ายและคุ้นเคยกันดี เป็นกล้วย คาราเมล เฮเซลนัทกรอบ และเนยช็อกโกแลต กับเบกิล French Toastและเมนูใหม่ล่าสุดของที่ร้าน "Portobello Creme Fraiche with Crispy onion (260 บาท)" ตัวเบเกิลเป็น Crispy Onion ไส้จะมีเห็ดพอร์โทเบลโล มีครีม Creme Fraiche เข้มข้น และ Swiss Gruyere Cheeseตามมาทานเบเกิลอร่อยๆ กันได้ที่ "ร้าน Volks" อยู่ที่ซอยประดิพัทธ์ 13 ร้านเปิดวันอังคาร-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร.08-2014-9437

  • Knock Knock Cafe & Bar คาเฟ่โฮมมี่วินเทจ

    "Knock Knock Cafe & Bar" คาเฟ่สุดคูลสไตล์โฮมมี่วินเทจ เน้นความเรียบง่ายแต่ได้ความอบอุ่นใจ มาพร้อมกับเมนูโฮมเมดอร่อยๆ มุมถ่ายรูปเก๋ๆ ไว้ลงโซเชียลอีกด้วยคอนเซ็ปต์ของที่ร้านคือลูกค้าทุกคนคือเพื่อนบ้านคนสนิทของคาเฟ่แห่งนี้ การตกแต่งร้านจึงเข้าคอนเซ็ปต์เป็นแนววินเทจน่ารักๆ"Teriyaki Grilled Salmon Rice Bowl (249 บาท)" "Capellini Bolognese Steak (389 บาท)" พาสต้าเส้นแองเจิ้ลแฮร์ผัดกับซอสโบโลเนสโฮมเมด ท็อปด้วยเนื้อริบอายสเต็กมีเดียมแรร์ฉ่ำๆ"Alfred's O (289 บาท)" พาสต้าโฮมเมดตัวใหม่ เป็นเส้น Fettucine Black Ink ผัดกับซอส Alfredo ที่ผสมพาร์เมซานชีส ท็อปด้วยมะเขือเทศ Sun-dried"Capellini Aglio E Olio with Bacon & Clam (229 บาท)" เมนูนี้รสชาติจัดจ้านผัดพริกแห้งเบคอนและหอยลาย ท็อปด้วยไข่กุ้งเมนู Appetizer "Potato Wedges (129 บาท)" เฟรนด์ฟรายส์ชิ้นใหญ่ ทำจากมันฝรั่งติดเปลือกหั่นแบบหนา โรยด้วยผงปาปริก้าและมาซาลาปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง "Brownie Lava (120 บาท)" และ "Banoffee Tart (150 บาท)" "Knock Knock Cafe & Bar" อยู่ที่ซอยอารีย์สัมพันธ์ 7 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-23.00 น. (หยุดวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-2253-9898

  • Unbidden Cafe & Things คาเฟ่มินิมอลย่านจรัญสนิทวงศ์

    "Unbidden Cafe & Things" คาเฟ่มินิมอลสไตล์เกาหลีย่านจรัญสนิทวงศ์ที่กำลังดังในโซเชียล การตกแต่งร้านเป็นโทนสีขาว-ครีมสะอาดตา ให้ความรู้สึกอบอุ่น และขนมของร้านก็ยังออกแบบเป็นสไตล์เกาหลีอีกด้วย 'คุณป๊อป' เจ้าของร้านตั้งใจจะเปลี่ยนธีมการตกแต่งร้านไปเรื่อยๆ ตามคอนเซ็ปต์ของชื่อร้าน 'Unbidden' ที่มีความหมายว่าทำอะไรก็ได้ และเพื่อให้เหล่าลูกค้าอยากกลับเข้ามาที่ร้านอีกครั้งนึงเมนูของที่ร้านจะทำรสชาติมาแบบเบาๆ เพื่อให้เข้ากับเครื่องดื่มทุกเมนู เน้นรูปร่างต่างกันออกไป เวลาถ่ายรูปจะดูน่ารักแต่ยังมีความมินิมอล"Rare Cheesecake (120 บาท)" ชีสเค้กเนื้อแน่น ท็อปด้วยครีมสด โรยด้วยผงโกโก้เล็กน้อย"Yoghurt Crumble (120 บาท)" โยเกิร์ตเนื้อนุ่ม รสชาติเปรี้ยวหวานเข้ากันได้ดีกับครัมเบิลด้านล่างที่มีความกรุบกรอบ"Flourless Choco Cup (120 บาท)" เค้กช็อกโกแลตไร้แป้ง แต่ได้รสชาติช็อกโกแลตเข้มข้นเมนูใหม่ของทางร้าน "Nama Chocolate (120 บาท)" เนื้อช็อกโกแลตหนึบๆ ตัดความเข้มด้วยครีมสดที่เสิร์ฟมาคู่กัน"Cocoa Crumble (120 บาท)" เมนูโกโก้ที่มีความเข้มข้น โรยหน้าด้วยครัมเบิลเพิ่มความกรุบกรอบ"Caramel Macchiato (120 บาท)" ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ มานั่งชิลถ่ายรูปเก๋ๆ เหมือนได้บินไปเช็คอินที่เกาหลี ก็แวะมาได้ที่ "Unbidden Cafe & Things" อยู่ใต้ตึกธนบุรีรามา ก่อนถึงซอยจรัญสนิทวงศ์ 49 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-4540-8217

  • Flat+White Cafe คาเฟ่ธีมขาวนมย่านทองหล่อ

    คาเฟ่สไตล์มินิมอลย่านทองหล่อ "Flat+White Cafe" ในธีมสีขาวนมผสมผสานกับลวดลายโค้งมนให้ความรู้สึกอบอุ่น พร้อมเสิร์ฟความอร่อยครบทั้งคาวหวาน แถมมุมถ่ายรูปชิคๆ เพียบอาหารของที่ร้านจะเป็นแนว Western Asian Fusion มาเริ่มด้วยเมนู "Fettuccine Carbonara with Truffled Pecorino (320 บาท)" ที่ร้านจะไม่ได้ใส่ครีม เป็นสูตรอิตาเลียนแท้ๆ เส้น Fettuccine เหนียวนุ่ม เคล้ากับไข่แดงนวลๆ โรยหน้าด้วยเบคอนกรอบ และชีสทรัฟเฟิล"Furikake Hotate Poke (450 บาท)" ข้าวกล้องปรุงรสด้วยผงโรยข้าวญี่ปุ่น ท็อปด้วยเต้าหู้อ่อน ที่ขาดไม่ได้เลยคือหอยโฮตาเตะ จัดมาให้ชิ้นใหญ่"Mongolian Beef with Organic Brown Rice (380 บาท)" เนื้อวัวตุ๋นจนนุ่มละลายในปาก ผัดกับหัวหอม ท็อปด้วยไข่ต้มโชยุ"Lemongrass Grilled Salmon (350 บาท)" แซลมอนชิ้นใหญ่หมักกับตะไคร้ แล้วย่างไฟจนได้หนังที่กรอบและเนื้อที่ยังนุ่มชุ่มฉ่ำ เสิร์ฟมาคู่กับน้ำยำมะม่วงสมุนไพรต่อด้วยขนมหวานหน้าตาน่ารักอย่าง "Carrot Cake (170 บาท)""Hojicha Pistachio Soy (150 บาท)""Chocolate Cake (150 บาท)" "White Peach Tea (150 บาท)" "Black Peach (150 บาท)" "Lemon Madeleine (50 บาท)""Strawberry Melon Milk (150 บาท)"ใครที่ชอบดื่มกาแฟ ทานอาหารสไตล์ Western Asian Fusion มาได้ที่ "ร้าน Flat+White Cafe" อยู่ในซอยธารารมณ์ 2 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร 09-2425-5533

  • คาเฟ่ใจกลางเมืองสไตล์ทรอปิคอล 'หมอก คาเฟ่'

    "หมอก คาเฟ่" คาเฟ่สวยๆ ย่านเลียบด่วนเกษตร-นวมินทร์ มาในสไตล์ทรอปิคอลให้ความร่มรื่นใจกลางเมือง ถ่ายรูปได้เพลินๆ มีทั้งหมอก น้ำตก ลำธาร อาหารของที่ร้านจะเน้นเป็นอาหารจานเดียวสไตล์ฟิวชั่น ทานได้ง่าย มีทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง เบเกอรี่ และกาแฟ"ชาผลไม้ (80 บาท)""กาแฟหมอก (เย็น 85 บาท/ ร้อน 75 บาท)""ผัดไทยกุ้งสด (89 บาท)""สเต๊กซี่โครงหมูอบน้ำผึ้ง (199 บาท)" ซี่โครงหมูไซส์ใหญ่ ตุ๋นทิ้งไว้ 1 วันเต็มๆ แล้วนำมาอบน้ำผึ้ง นุ่ม ร่อน ละลายในปาก และหอมกลิ่นกระวานที่หมักลงไปด้วยอีกหนึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน "หมูทอดหมอก (79 บาท)" ใช้หมูสันในหมักกับซอสปรุงรส แล้วนำมาคลุกแป้งทอดกรอบ ทอดในน้ำมันเดือดๆ โรยใบมะกรูดทอด เค็มๆ หวานๆ ทานเพลินมาก"สปาเกตตีชิลลีเบคอน (99 บาท)" ผัดกับพริกสดและพริกคั่ว ได้รสชาติเผ็ดร้อนกำลังดีตามมาถ่ายรูปสวยๆ ทานอาหารอร่อยๆ กันได้ที่ "ร้านหมอก คาเฟ่" อยู่ที่ถนนประเสริฐมนูญกิจ ใกล้กับบึงนวมินทร์ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-4639-2364

  • Coco Banana Cafe คาเฟ่กล้วยปิ้งสไตล์ทรอปิคอล

    ปักหมุดเอาใจสายคาเฟ่กับบรรยากาศที่ยกเอาทะเลมาไว้ที่นนทบุรี "Coco Banana Cafe" คาเฟ่กล้วยปิ้งสไตล์ทรอปิคอลกับหลากหลายมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้ฟีลเหมือนมาถ่ายรูปอยู่ริมทะเล แถมยังมีเครื่องดื่มสีสันสดใสให้ถ่ายรูปเข้ากับบรรยากาศอะโลฮ่าอีกด้วย"เรนโบว์อินวินเทอร์ (60 บาท)" ชั้นล่างเป็นไซรัปสตรอว์เบอร์รี ตรงกลางเป็นไซรัปสับปะรด และด้านบนเป็นไซรัปบลูฮาวาย สีสันสดใสเข้ากับบรรยากาศ"เรนโบว์อินซัมเมอร์ (60 บาท)"มาถึงเมนูไฮไลท์ที่ห้ามพลาดอย่าง "กล้วยปิ้งเตาถ่าน (55 บาท)" กล้วยปิ้งสูตรโบราณ น้ำจิ้มมีความหอมของน้ำผึ้งเข้ากับกะทิที่มีความมันและมีมะพร้าวผสมอยู่ด้วยนอกจากนี้ยังมีขนมโฮมเมดอย่าง "ชีสเค้กหน้าไหม้ (55 บาท)" และ "บลูเบอร์รีชีสพาย (50 บาท)" ใครที่คิดถึงทะเล คิดถึงมุมถ่ายรูปสวยๆ ชิคๆ มากันได้ที่ "Coco Banana Cafe" อยู่ซอยเลี่ยงเมืองปากเกร็ด 11 ติดกับร้านครัวแม่วุ้น ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-0006-8466

  • Hong Sieng Kong คาเฟ่สไตล์จีนโบราณริมน้ำย่านตลาดน้อย

    คาเฟ่ยอดฮิตริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยลึกย่านตลาดน้อย "Hong Sieng Kong" กับบรรยากาศเหมือนหมู่บ้านจีนสมัยก่อน เพราะทางร้านรีโนเวทบ้านเก่าอายุกว่า 150 ปี ผสมผสานกับการนำเข้าของเก่าอายุกว่า 60-500 ปี มาตกแต่งชื่อร้าน 'Hong Sieng Kong'  หรือ 'ฮงเซียงกง' มาจากคำว่า 'ฮง' ที่มาจากชื่อคุณพ่อของเจ้าของ และคำว่า 'เซียงกง' ที่มาจากเซียงกงตลาดน้อยนั่นเองที่ 'Hong Sieng Kong' มีตึกอยู่ประมาณ 6 ตึก ซึ่งอายุของแต่ละตึกประมาณ 150-200 ปี โดยยังคงรักษาความโบราณของตึกเอาไว้จนกลายเป็นเสน่ห์อีกอย่างนึงของที่นี่ ตึกทั้ง 6 ตึก ของที่นี่ประกอบไปด้วย - 'ตึกกาแฟ' ชั้นล่างจะมีกาแฟและขนมบริการ ชั้นสองของตึกจะเป็น Exhibition จุดที่ไว้จัดโชว์แสดงสินค้าหรือพวกงานต่างๆ - 'Wooden Hall หรือ เรือนไม้' ตึกนี้จะสามารถสัมผัสของวัตถุโบราณ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ประตู โคมไฟต่างๆ เปรียบเสมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต - หลังจากผ่านเรือนไม้แล้วจะเจอ 'ตึกปั้นหยา' จุดนี้บริเวณชั้นสองจะเป็นแกลลอรี่ ส่วนบริเวณ Outdoor จะประกอบไปด้วยต้นไม้ ตรงมาเรื่อยๆ บริเวณริมน้ำที่เป็น Terrace จะสามารถเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุดในย่านตลาดน้อย - หลังจากผ่านบริเวณริมน้ำแล้วก็จะเจอ 'River Room 1' และ 'River Room 2'- ถัดมาจะเจอ 'Private Area' ตึกนี้จะเป็นตึกเก่าแก่ที่สุดในโครงการ โดยจะมีอายุประมาณ 200 ปี แต่ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก"Strawberry Brulee Cheesecake (180 บาท)" เมนูนี้จะได้ความหวานหอมจากน้ำตาลคาราเมล ตัดกับรสชาติหวานอมเปรี้ยวนิดๆ ของสตรอว์เบอร์รี"New York Cheesecake (160 บาท)" เมนูนี้ส่งตรงชีสมาจากนิวยอร์กทำให้มีความหอมมาก"Flourless Orange (140 บาท)" เมนูยอดฮิตที่ตัวเนื้อเค้กทำมาจากอัลมอนด์บด รับรองถูกใจสายคีโตหรือคนที่ไม่ทานแป้งแน่นอน"Raspberry Tartlet (200 บาท)" ตัวทาร์ตนุ่ม หอมกลิ่นชีส ส่วนด้านบนอัดแน่นไปด้วยราสป์เบอร์รี ได้รสชาติเปรี้ยวหวานลงตัว"Sieng Kong Pudding Tea (140 บาท)" เมนูนี้ได้ไอเดียมาจากเต้าฮวยร้อน จะใช้ชาซีลอนหอมๆ ท็อปด้วยพุดดิ้งถั่วเหลืองญี่ปุ่นกับปาท่องโก๋ๆ กรอบ"Talad Noi Orange Coffee (140 บาท)" กาแฟคั่วกลางเข้มกำลังดี เปรี้ยวอมหวานนิดๆ ของส้มมะปี๊ดหรือส้มจี๊ดที่ส่งตรงมาจากจันทบุรี คั้นสดวันต่อวัน ทานแล้วรู้สึกสดชื่นเหล่า Cafe Hopper ต้องห้ามพลาดกับ "ร้าน Hong Sieng Kong" อยู่ตลาดน้อย ซอยวานิช 2 ใกล้ศาลเจ้าโจวซือกง ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-5998-9895

  • Mil Toast House คาเฟ่ขนมปังโฮมเมดจากเกาหลี

    มาเช็คอินคาเฟ่น้องใหม่ที่สายขนมปังต้องชอบ เพราะยกคาเฟ่ชื่อดังจากเกาหลีมาไว้ที่สยามกับ "ร้าน Mil Toast House" คาเฟ่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นขนมปังหอมๆ ที่นึ่งกันสดใหม่ ในบรรยากาศอบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่นให้ความรู้สึกโฮมมี่นิดๆ คนรักเบเกอรี่ต้องห้ามพลาด'Mil Toast House' สาขาสยามเป็นสาขาแรกของประเทศไทย แต่ถ้าใครเคยไปเกาหลีก็คงจะคุ้นเคยกับคาเฟ่ขนมปังนี้แห่งนี้กันดี เพราะสาขาดั้งเดิมอยู่ที่ย่านอิกซอนดง ประเทศเกาหลี ที่โด่งดังมากขนาดคนเกาหลีเองยังต้องไปต่อคิวรอกันความพิเศษของขนมปังที่ร้านคือความสดใหม่ ตัวแป้งจะใช้แป้งที่นำเข้ามาจากเกาหลี ส่วนเนยและชีสมูสจะเป็นสูตรของทางร้าน ส่วนการตกแต่งร้านของสาขาสยามจะถอดแบบมาจากสาขาดั้งเดิมที่เกาหลีเลย มีความผสมผสานทั้งญี่ปุ่นและเกาหลีได้อย่างลงตัว เลือกใช้ไม้สีอ่อนเพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ที่บ้าน เริ่มด้วยเมนูแนะนำของทางร้าน "Ham & Corn Brioche (259 บาท)" ขนมปังนึ่งมาแบบนุ่มๆ พร้อมกับครีมและข้าวโพดชิ้นโต ไส้ด้านในยังอัดแน่นไปด้วยแฮมและข้าวโพดอีกด้วย"Chocolate Nutella Marbel Brioche (310 บาท)" เมนูนี้จัดเต็มนูเทลล่าแบบเข้มข้น แทรกเข้าไปในทุกอณูของขนมปังที่นึ่งมาร้อนๆ เป็นลวดลายคล้ายหินอ่อนที่ไม่ว่าจะทานตรงไหนก็เจอนูเทลล่าแบบแน่นๆ"Souffle' French Toast with Strawberry Cheese Mousse (395 บาท)" เมนูนี้ฮิตมากที่เกาหลี ซูเฟลเฟรนช์โทสต์หอมๆ มาพร้อมกับสตรอว์เบอร์รีครีมชีสมูส รสชาติมีความหวานอมเปรี้ยว และสตรอว์เบอร์รีลูกโต รสหวานฉ่ำ"Butter Toast with Vanilla Ice cream (365 บาท)" เมนูแนะนำของทางร้าน ตัวโทสต์มีความหอมและฉ่ำเนย ทานพร้อมไอศกรีมวานิลลาก็เข้ากันได้เป็นอย่างดีขนมปังหอมๆ ก็ต้องมาคู่กับนมสดกับเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของทางร้านอย่าง "นมกล้วย/นมพีนัท" รสชาติหอมหวาน มาในขวดกลมพร้อมฝาสีขาวรูปร่างเหมือนผ้าที่พลิ้วๆ มีความน่ารักในตัวไม่ต้องไปถึงเกาหลีก็มาทานขนมปังอร่อยๆ กันได้ที่ "ร้าน Mil Toast House" อยู่สยามสแควร์ซอย 3 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-4898-9999

  • Secret Wonderland ร้านลับในดินแดนมหัศจรรย์

    เอาใจสาย Cafe Lover กับร้านลับใกล้ BTS พญาไท อย่าง "Secret Wonderland" เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปในร้านบรรยากาศก็เหมือนอยู่ใน Wonderland มีทั้งปราสาท มุมเก้าอี้เท่ๆ และมุมโคมไฟที่ Inspiration มาจากต้นไม้กลับหัวคอนเซ็ปต์ของทางร้านมาจากหนังเรื่อง 'Alice in Wonderland' เพราะว่าทางเข้าของร้านค่อนข้างลึกลับหายาก บรรยากาศภายในร้านจึงตกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่ ธารน้ำ น้ำตกจำลอง และหมอกควันจางๆ ให้ได้ฟีลคล้ายกับหลุดเข้ามาใน Wonderlandเมนูอาหารของที่นี่จะนำเสนอในรูปแบบของอาหารไทยฟิวชั่นได้ 'คุณแชน' ผู้เป็นทั้งเชฟและเจ้าของร้านที่จบด้านการทำอาหารจากกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เป็นคนคิดสูตรขึ้นมาเองทั้งหมดแถมหน้าตาก็ยังไม่ธรรมดาอีกด้วย"ข้าวผัดกะเพรา Maine ล็อบสเตอร์ (888 บาท)" ล็อสเตอร์ตัวใหญ่ๆ ส่งตรงจากรัฐเมน สหรัฐอเมริกา เนื้อจะมีความเด้ง หวาน ตัดกับความเผ็ดร้อนของกะเพราได้ดี"ข้าวหมูคุโรบุตะ ทรัฟเฟิลซอส (350 บาท)" หมูคุโรบุตะหมักนานกว่า 48 ชม. เสิร์ฟคู่กับไข่ออนเซ็นและราดด้วยทรัฟเฟิล ออยล์ ทำให้ได้กลิ่นหอมโชยขึ้นมาก"แกงส้มแห้งกุ้งแม่น้ำ สูตรคุณย่า (350 บาท)" มิติใหม่ของแกงส้มที่จะเคี่ยวจนน้ำแกงเป็นซอสเข้มข้น มีไข่ชะอมวางไว้ด้านล่าง ส่วนด้านบนท็อปด้วยกุ้งแม่น้ำตัวโตเนื้อแน่น"ราดหน้าเส้นกรอบหน้าแอตแลนติกแซลมอน (750 บาท)" เป็นราดหน้าสูตรพิเศษของทางร้านที่จะผสมเหล้าจีนลงไปตัวซอสราดหน้า"Butter Beer (120 บาท)" เครื่องดื่มเย็นๆ ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น"ดัทช์โกโก้ (175 บาท)" โกโก้เข้มข้น ที่มีความพิเศษคือสามารถสั่งปั้นฟองนมให้เป็นรูปสัตว์ต่างๆ บนแก้วได้ด้วยใครที่อยากจะเดินทางมาในดินแดนมหัศจรรย์แบบนี้ มากันได้ที่ "ร้าน Secret Wonderland" อยู่ในโรงแรม Bangkok Oasis Hotel ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 10.00-23.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-5595-5259

  • Factory Coffee ดื่มด่ำกับกาแฟฝีมือแชมป์บาริสต้า

    เอาใจ Coffee Lover กับคาเฟ่ในคอนเซ็ปต์โรงงานกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมอบอวลตั้งแต่เข้าร้าน "Factory Coffee" กับการรวมตัวของแชมป์บาริสต้าระดับประเทศ สร้างสรรค์เมนูกาแฟที่เป็นเอกลักษณืให้คอกาแฟได้สนุกสนานไปกับรสชาติ'Factory Coffee' ปัจจุบันมีหุ้นส่วนทั้งหมด 9 คน ซึ่งแต่ละคนได้รับรางวัลการันตีกันทุกคนและรักในการทำกาแฟ อยากเติมเต็มความฝันร่วมกันที่ร้านแห่งนี้ ซึ่งภายในร้านถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ Cafe, Roastery และ Training โดยทางร้านอยากเป็นโรงงานผลิตกาแฟดีๆ ให้ทุกคนที่มาดื่ม มีความสุขกับกาแฟที่ทางร้านครีเอทขึ้นมาเริ่มด้วยกาแฟดริปอย่าง "Filter Coffee: Finca Deborah Nirvana (500 บาท)" ใช้เมล็ดพิเศษ Nirvana จากไร่ Finca Deborah จากประเทศปานามา ซึ่งเป็นไร่ที่ผลิตกาแฟระดับโลก"Phayathai (140 บาท)" กาแฟดำผสมเลมอนและโทนิค ตัวเมล็ดกาแฟใช้เมล็ดกาแฟจากจังหวัดเชียงรายที่ปลูกบนความสูง 1400 เมตร เมนูนี้ถูกตั้งชื่อตามย่านที่ร้านอยู่ เพราะอยากให้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ และเป็นเมนูถ่ายรูปเช็คอินของนักท่องเที่ยวที่มา"Honolulu (120 บาท)" เป็นการจับคู่ของเอสเปรสโซและโฮจิฉะ เสิร์ฟมาเป็นเลเยอร์ เวลาดื่มให้ดื่มแบบแยกชั้นจะได้รสชาติที่ดีกว่า"Filter Coffee: Thailand Maesuai - Anaerobic Natural (Experiment Lot)""Mocha Set Salt (150 บาท)" ดาร์กช็อกโกแลตผสมกับกาแฟ ท็อปด้วยครีมเย็นแล้วโรยด้วยเกล็ดช็อกโกแลตขูดบางๆ"Matcha Yen (130 บาท)" เป็นมัจฉะพิเศษจากเมือง Yame จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ออนท็อปบนนมเย็นใครที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟมาตามรอยกันได้ที่ "ร้าน Factory Coffee" อยู่ ซ.ข้าง สถานี Airport Rail Link พญาไท ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-0958-8050

  • Bloom Pretzel & Coffee คาเฟ่ Pretzel สไตล์เกาหลี

    ไม่ต้องไปถึงเกาหลีก็มีคาเฟ่ชิคๆ เก๋ๆ เอาใจสาย Cafe Hopper อย่าง "Bloom Pretzel & Coffee" คาเฟ่ Pretzel สไตล์เกาหลีเปิดใหม่ย่านพัฒนาการ ที่โดดเด่นในเรื่องของ Pretzel ซึ่งทางร้านจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ Classic Soft Pretzel และ Signature Stuffed Pretzel หรือแบบมีไส้นั่นเอง'ร้าน Bloom Pretzel & Coffee' เกิดจากความชอบและหลงใหลใน Pretzel ของเจ้าของร้าน ซึ่งตัว Pretzel เองเป็นขนมอบที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ที่คนในสมัยนั้นใส่ทั้งวัฒนธรรมและมุมมองของตัวเองลงไปในขนม ทำให้คนทานได้รับรู้ถึงความตั้งใจและสิ่งที่คนในสมัยนั้นอยากนำเสนอ ทางร้าน Bloom Pretzel & Coffee จึงนำความดั้งเดิมนั้นมาพัฒนาและใส่มุมมองของตัวเองลงไป จนกลายมาเป็น Pretzel แบบฉบับของ Bloom Pretzel & Coffee อย่างทุกวันนี้ตัวร้านจะมีการตกแต่งสไตล์ Cozy ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เน้นสีน้ำตาลอ่อนกับขาวให้ความรู้สึกอบอุ่น ได้ฟีลเกาหลีนิดๆ ด้วยการตกแต่งร้านทำให้มีหลากหลายมุมเด็ดให้ถ่ายรูปทั้งมุมหน้าร้าน, มุมโต๊ะริมหน้าต่าง หรือมุมกลางร้าน จะมาโพสต์ท่าเดินผ่านคาเฟ่แบบเผลอๆ หรือยืนโพสต์ท่าเท่ๆ ตรงกลางร้านที่มีแบล็คกราวน์เป็นแก้วกาแฟเรียงรายก็ดูเก๋ๆ ไปอีกแบบ"The Queen Cheese (85 บาท)" เป็น Signature Stuffed Pretzel หรือแบบมีไส้ รูปร่างทรงกลมคล้ายโดนัท ไส้อัดแน่นไปด้วยครีมชีสที่อบไปพร้อมกัน ทำให้มีความหอมนุ่มและได้ความเค็มนิดๆ ของครีมชีส"55% Dark Belgium (80 บาท)" เนื้อแป้งเนียนนุ่ม และอัดแน่นด้วยไส้ดาร์กช็อคโกแลตเมนูพิเศษ รสชาติ Special ที่มีวันละไม่กี่ชิ้นเท่านั้น "BFF หรือ Best Friend Forever (150 บาท)" เป็นเมนูที่ให้คนทานได้เซอร์ไพร์สกับรสชาติหรือ Mystery Flavor นั่นเอง ซึ่งจะมีการเปลี่ยรสชาติไปเรื่อยๆ ทำให้คนทานได้สนุกกับการทายรสชาติต่อด้วยเมนูที่ใครมาก็ต้องสั่งอย่าง "Roasted Almond (75 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน เป็น Classic Soft Pretzel แป้งนุ่มๆ เพิ่มสัมผัสกรุบกรอบด้วยอัลมอนด์ พร้อมรสชาติหวานมันเค็มมาลอง Pretzel อร่อยๆ กันได้ที่ "Bloom Pretzel & Coffee" อยู่ที่ซอยพัฒนาการ 65 วันอังคาร-ศุกร์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2722-2371

  • 58+60 Cafe คาเฟ่มินิมอลโฮมมี่ ย่านพัฒนาการ

    "58+60 Cafe" คาเฟ่สไตล์มินิมอลโฮมมี่ มีจุดเริ่มต้นจาก 2 เจ้าของร้านที่ชื่นชอบการทำขนมและการไปเที่ยวคาเฟ่เป็นชีวิตจิตใจ ชื่อร้าน 58+60 Cafe เกิดจากเลขที่บ้านของที่ร้านนั่นเอง ซึ่งตัวร้านจะมีสีขาวสะอาดตา ได้ฟีลเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน ดู Cozy อบอุ่น สบายตาเริ่มด้วยเมนูเครื่องดื่ม "Raspberry Tonic (110 บาท)" ไซรัปราสป์เบอร์รีผสมโทนิค ท็อปด้วยเอสเปรสโซชอต"Give Me Peach (85 บาท)" ไซรัปพีชผสมกับสตรอว์เบอร์รี และใส่โซดาเพิ่มความซ่า"Red Velvet (120 บาท)" ตัวเค้กจะใช้เนยเป็นส่วนผสมหลัก ทานพร้อมครีมชีสเนื้อเนียน"Blueberries Cream Cheese (159 บาท)" แป้งครัมเบิลกรุบกรอบหอมเนย เข้ากับบลูเบอร์รีครีมชีสซึ่งใช้เป็นโยเกิร์ตผสมกับครีมชีส ทำให้ได้เนื้อครีมชีสที่เบาและรสชาติหวานอมเปรี้ยว"Coconut Cake (100 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน จะใช้มะพร้าวสดจากสวนอัมพวา ตัวซอสกะทิไม่หวานเกินไป มีเนื้อมะพร้าวให้เคี้ยว แล้วท็อปหน้าด้วยเนื้อมะพร้าวแบบจุกๆ"Carrot Cake (120 บาท)" ทางร้านเลือกใช้แครอทออสเตรเลีย เพราะรสชาติจะหวานกว่าแครอททั่วไป ตัวแป้งผสมมะม่วงหิมพานต์ สลับชั้นกับครีมชีส แล้วท็อปปิ้งด้วยถั่วต่างๆ แบบจัดเต็ม"58+60 Cafe" อยู่ซอยพัฒนาการ 78 ซอยย่อยผาสุกหทัย 6 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-7205-5860

  • ฐ Cafe & ร้านครูสายฐิพย์ - ข้าว ยำ ธรรม แกง

    "ฐ Cafe & ร้านครูสายฐิพย์ - ข้าว ยำ ธรรม แกง" คาเฟ่น้องใหม่มาแรงย่านลาดพร้าว เป็นคาเฟ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เดียวกับ 'ร้านครูสายฐิพย์ - ข้าว ยำ ธรรม แกง'  ในบรรยากาศสุดร่มรื่น"ร้านครูสายฐิพย์ - ข้าว ยำ ธรรม แกง" เกิดจากความตั้งใจของ 3 พี่น้อง คุณโอม-คุณเอ็ม-คุณอูม อาหารของที่ร้านเป็นเมนูพื้นบ้านจากภาคใต้และภาคกลาง รสชาติจัดจ้านเพราะเจ้าของเป็นคนใต้ การตกแต่งร้านเป็นสไตล์ English Cottage Garden ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้มาทานข้าวต่างจังหวัด"แกงเผ็ดเป็ดย่างกับผลแอปเปิล (350 บาท)" เมนูโบราณที่ทางร้านใช้พริกแกงเผ็ดตำเอง"ไหลบัวผัดไข่เค็มกุ้งเสียบ (240 บาท)" กุ้งเสียบคัดส่งมาจากประมงพื้นบ้าน เกาะยาวน้อย จ.ภูเก็ต เอามาคั่วให้หอมกรอบ และผัดกับไหลบัวกรอบๆ"ปลากะพงทอดสวนสุวรรณ (490 บาท)" ปลากะพงทอดเหลืองกรอบทั้งตัว เสิร์ฟมาพร้อมซอส 3 สูตรเด็ด คือ ซอสลุยสวน, ซอสยำมะม่วงทวาย และซอสน้ำปลาหวาน"ต้มยำปลากะพงปรุงกะศิลป์ (280 บาท)" ต้มยำน้ำใสแบบโบราณที่ได้รับสูตรมาจากท่านผู้ดูแลเพจปรุงกะศิลป์ เมนูนี้จะได้ความเปรี้ยวจากมะม่วงซอย และมีความหอมของพริกเผา"ฐ.ฐาน (100 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ เป็นกาแฟลาเต้ผสมคาปูชิโน ใช้เมล็ดกาแฟที่ส่งมาจากเชียงราย"เปรมสุข (125 บาท)" ขนมปังสังขยาที่มาพร้อมเครื่องจิ้ม 3 รสชาติ สังขยาใบเตย, สังขยาชาไทย และสังขยาตาลโตนด ใช้น้ำตาลจาก จ.เพชรบุรี"Moka Pot Affogato (120 บาท)" เป็นไอศกรีมกะทิมะพร้าวอ่อน คนให้เข้ากันแล้วดื่ม หรือตักทานก็ได้"Macadamia Coffee Cake (120 บาท)" เค้กกาแฟ ท็อปด้วยซอสคาราเมล แมคคาเดเมียส่งตรงมาจากเชียงราย"ฐ Cafe & ร้านครูสายฐิพย์ - ข้าว ยำ ธรรม แกง" อยู่ซอยลาดพร้าว 71 เยื้องซอยนาคนิวาส 5 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-5246-8497

  • Brooke คาเฟ่มินิมอลคุมโทนขาวน้ำเงิน

    หยิบกล้องให้พร้อมแล้วตามมาเช็คอินคาเฟ่สุดฮิต "Brooke" คาเฟ่มินิมอลที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยลาดพร้าว 26 โดดเด่นด้วยการคุมโทนสีขาว-น้ำเงิน ซึ่งถือเป็น Instagram Spot ในย่านลาดพร้าวเลย พื้นที่ร้านก็เป็นแบบ Outdoor เหมาะกับสถานการณ์ในปัจจุบันอีกด้วย"Squid Ink Bread (100 บาท)" ขนมปังผสมน้ำหมึกดำที่นำเข้าจากฝรั่งเศส ส่วนไส้ด้านในใช้ครีมชีสผสมอัญชัน"Brooke Custard Croissant (100 บาท)" ครัวซองต์ชาโคลที่ทาด้วยเนยฝรั่งเศสแท้ กรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยสังขยาอัญชัน"Lemon Cube Cake (70 บาท)" บัตเตอร์เค้กเนื้อนุ่ม ราดด้วยซอสเลมอนสด"Jeed Jard (70 บาท)" ชามะลินำเข้าจากประเทศจีน ผสมกับไซรัปส้มจี๊ด ดื่มแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น"Garlic Cream Cheese Brioche Bread (80 บาท)" เมนูนี้คล้ายกับขนมปังเนยกระเทียม แต่ทางร้านใช้แป้งบริยอช ด้านบนท็อปด้วยการ์ลิคและเนย"Brooke Blood (100 บาท)" ทางร้านใช้กาแฟเบลนผสมของไทยและเอธิโอเปีย รสชาติจะมีความ Fruity ผสมกับน้ำองุ่นแท้คาเฟ่เท่ๆ แบบนี้ เหล่า Cafe Hopper ต้องแวะมาลองกันที่ "Brooke" ซอยลาดพร้าว 26 แยก 4 ร้านเปิดวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. (หยุดวันอังคาร) สอบถามเพิ่มเติม โทร.06-2196-4264

  • ธรรมชาติอีสาน Beach Cafe

    ยกทะเลสวยๆ มาไว้ที่ถนนตัดใหม่-ร่มเกล้า กับ "ร้านธรรมชาติอีสาน Beach Cafe" ร้านอาหารอีสานซีฟู้ดในบรรยากาศบีชคลับ เอาใจคนคิดถึงทะเลและต้องการความแซ่บในเวลาเดียวกันอาหารของที่ร้านมี 2 สไตล์ คือ 'อาหารอีสาน' ทีเด็ดอยู่ที่น้ำปลาร้าปรุงรสที่ร้านทำเอง และ 'เมนูซีฟู้ด' ที่เน้นความสดและส่งตรงมาจากแหล่งที่ดีที่สุดทั่วประเทศ"เจ้าทะเล (1,690 บาท)" ซีฟู้ดใหญ่จัดเต็ม มีทั้งกุ้งเผา, กั้งกระดาน, ปูม้า ส่งตรงมาจากกระบี่ และหอยหวานเผา ส่งตรงมาจากทะเลใต้สดๆ"หอยมะระซาชิมิ (350 บาท)" หอยมะระสดๆ มาจากพัทยา แล้วเอามาแร่เป็นซาชิมิ เนื้อหวานๆ หนึบๆ"กั้งทอดกระเทียม (290 บาท)" ใช้กั้งกระดานจาก จ.กระบี่ ตัวกั้งชิ้นใหญ่มาพร้อมกระเทียมเจียวกรอบๆ ฟินๆ"เกาเหลาทะเล (250 บาท)" ซีฟู้ดเน้นๆ ทั้งกุ้ง หมึก ปูม้า หอยแครง คลุกเคล้านัวๆ กับน้ำปลาร้าต้มสุกปรุงรสสูตรของทางร้าน"จิ้มจุ่มลาวหมู (180 บาท)/ จิ้มจุ่มลาวทะเล (250 บาท)" น้ำซุปหวานหอมสมุนไพร ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดมาเติมความแซ่บๆ ในบรรยากาศบีชคลับได้ที่ "ร้านธรรมชาติอีสาน Beach Cafe" อยู่ถนนศรีนครินทร์ - ร่มเกล้า ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-7195-2555

  • Burble Cafe & Studio คาเฟ่สายอาร์ตสไตล์ Mid Century

    "Burble Cafe & Studio" คาเฟ่เท่ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านสัมมากรที่หยิบเอารูปทรงเรขาคณิตมาดีไซน์กับสีสันของเฟอร์นิเจอร์ในร้าน ถ่ายรูปมุมไหนก็อาร์ต แถมมีเมนูเครื่องดื่มเก๋ๆ รับรองถูกใจ Cafe Hopper แน่นอนที่ร้านมีพื้นที่แสดงงานศิลปะซึ่งจะปรับเปลี่ยนมุมเวียนให้ได้ชมทุกเดือน มีทั้งผลงานภาพวาดสีน้ำมัน, ภาพพิมพ์, ภาพถ่าย โดยศิลปินชาวไทย และภายในร้านยังมี Photo Booth ให้ย้อนวันวานกับตู้ถ่ายรูปยุค 90s ที่ตอนนี้กลับมาฮิตกันอีกครั้ง และตู้ถ่ายรูปของที่ร้านชื่อ 'Awhile' ซึ่งมีตู้เดียวในประเทศไทย โดยจะปรับเปลี่ยนสถานที่ตั้งไปเรื่อยๆ จะตั้งที่ร้าน Burble Cafe & Studio ถึงเดือนมกราคม และมีเทมเพลตพิเศษตามเทศกาลอีกด้วยทางร้านตกแต่งด้วยสไตล์ Mid Century หยิบเอาสีสันและรูปทรงเรขาคณิตมาใช้ พื้นที่ภายในร้านมีโซนบาร์ ชั้น 1 และโซน Studio ชั้น 2เมนูเครื่องดื่มของที่ร้านจะได้แรงบันดาลใจมาจากภาพวาด ทั้งผลงานของศิลปินระดับโลกและศิลปินชาวไทย "Flaming June (150 บาท)" กาแฟ Cold Brew หมัก 1 คืน ก่อนนำไปสกัด ผสมน้ำส้มยูซุ, ไซรัปพีช, โทนิค ให้ความรู้สึกสดชื่น เมนูนี้ได้แรงบันดาลใจจากภาพรูปเขียนผู้หญิงใส่ชุดสีส้มกำลังนอนหลับอยู่"Milky Strawberry (95 บาท)" ด้านล่างจะเป็นสตรอว์เบอร์รีคล้ายๆ แยม ด้านบนเป็นมิลค์เชค และเมนูนี้ได้แรงบันดาลใจจากภาพวาดที่ติดอยู่ในร้าน เป็นรูประเบิดสีชมพู ทานแล้วรู้สึกนุ่มละมุน"สปาเกตตีแกงกะหรี่ไก่คาราเกะ (129 บาท)" ไก่ทอดกรอบมีความหอมกลิ่นน้ำมันงา ส่วนซอสแกงกะหรี่ มีเคล็ดลับอยู่ที่การใช้เมล็ดกาแฟคอสตาริก้าสกัดและแอปเปิลผสมลงไป"ข้าวแกงกะหรี่หมูผัดกิมจิ (119 บาท)" จัดจ้านร้อนแรงด้วยโคชูจัง พริกป่น พริกไทยดำ และใบยี่หร่า"Snow Onion Chicken (ไซส์เล็ก 129 บาท /ไซส์ใหญ่ 169 บาท)" ไก่ทอดซอสหัวหอม ไก่มีความกรอบและความนัวของซอสครีมสลัด"Spicy Korean Chicken (ไซส์เล็ก 129 บาท /ไซส์ใหญ่ 169 บาท)" มีทั้งซอสเผ็ดโคชูจังและพริกเกาหลีมาเสพงานอาร์ต จิบกาแฟกันได้ที่ "Burble Cafe & Studio" อยู่หมู่บ้านสัมมากร ซอยรามคำแหง 112 ร้านเปิดวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-5239-9388

  • Nomisuke คาเฟ่ญี่ปุ่นสุดฮิตย่านบางแสน

    ยกญี่ปุ่นมาไว้ที่บางแสนกับ "ร้าน Nomisuke" คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่กำลังมาแรงเป็นกระแสในโซเชียล ดังไกลจนสำนักข่าวญี่ปุ่นมาทำข่าวเลยเพราะเหมือนยกเอาเมืองโตเกียวขนาดย่อมมาไว้ที่นี่ รับรองถ่ายรูปสวยทุกมุม"ร้าน Nomisuke" เกิดจากการรวมตัวของ 'คุณนายด์' เจ้าของร้านและเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบในความเป็นญี่ปุ่น ทั้งอาหาร บรรยากาศ และวัฒนธรรม จึงเกิดไอเดียเอาความชอบมาทำเป็นร้าน โดยใช้เวลาประมาณ 8 เดือนจึงเกิดเป็นร้านนี้ขึ้นมา ซึ่งภายในร้านสามารถ่ายรูปได้ทุกมุมเลย ทั้งมุมป้ายรถเมล์ที่มีตู้กดน้ำอัตโนมัติ มุมถนนที่มีไฟแดง มุมก่อสร้างที่ลังสีเหลือง มุมรถเข็นสไตล์ยาไต ซึ่งทุกมุมถ่ายแล้วเหมือนอยู่ญี่ปุ่นจริงๆ เลยทีเดียวทางร้านจะแบ่งเวลาเปิดออกเป็น 2 ช่วง ในช่วงเช้าจะเป็นธีม 'Nomisuke Matcha' จะเน้นขายเครื่องดื่มพวกชาเขียวและขนมหวานอย่างไทยากิ ส่วนช่วงเย็นจะเป็นธีม 'Nomisuke Ramen' มีทั้งราเมง เกี๊ยวซ่า ทาโกะยากิ และอื่นๆ อีกมากมาย"Taiyaki Red Bean (60 บาท)" ขนมรูปปลาไส้ถั่วแดงกวน "Matcha Coconut (90 บาท)" ใช้ผงมัทฉะจากเมืองชิซึโอกะ รสชาตินุ่มลึก หอมละมุน ผสมกับน้ำมะพร้าวจากชาวสวนในบางแสน"Premium Matcha Latte (130 บาท)" ใช้ผงมัทฉะพรีเมี่ยมจากเมืองอุจิ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกชาที่ดีที่สุดอีกแห่งในประเทศญี่ปุ่น "Taiyaki Custard (60 บาท)" แป้งที่ทำเป็นสูตรพิเศษที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเอง กรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ด้วยคัสตาร์ดเนื้อเนียนมาถ่ายรูปให้หายคิดถึงญี่ปุ่นกันได้ที่ "ร้าน Nomisuke" อยู่บางแสนสาย 1 ใกล้ 7-11 หาดวอนนภา ร้านเปิดทุกวัน โซน Nomisuke Match 09.00-17.00 น. และโซน Nomisuke Ramen 18.00-24.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-4561-6770

  • Rico Beach Cafe & Restaurant คาเฟ่ฮาวายริมหาดบางแสน

    "Rico Beach Cafe & Restaurant" คาเฟ่สไตล์ฮาวายที่กำลังมาแรงในบางแสน ตกแต่งด้วยไม้ไผ่เน้นใช้สีฟ้าขาวดูสบายตา มานั่งชมวิวทะเลชิลๆ บนบีนแบคหน้าร้านก็ได้ฟีลเหมือนอยู่ฮาวายที่นี่มีด้วยกัน 4 โซน คือ โซน Outdoor นั่งชมวิวทะเลสวยๆ, โซน Indoor ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ, โซนสวนหลังร้าน และโซนดาดฟ้า วิวพาโนรามาชื่อร้าน "Rico Beach Cafe & Restaurant" มาจากคำว่า 'Rico' มีความหมายที่ดีในหลายภาษา เช่น ภาษาสเปนจะแปลว่าอร่อย ภาษาอังกฤษจะมีรากศัพท์มาจากคำว่า Riches ที่แปลว่ารวย แต่หลักๆ จะอิงมาจากภาษาไทยซึ่งออกเสียงว่า 'ริโก้' ที่มาจากคำว่า 'โก้เก๋' ที่สื่อถึงตัวร้านกับสีสันที่สะดุดตา"สปาเกตตีริโก้ทาโกะยากิ (189 บาท)" เส้นสปาเกตตีคลุกเคล้ากับซอสทาโกะยากิและมายองเนส ผัดกับหมึกกล้วยเนื้อเด้ง ท็อปหน้าด้วยทาโกะยากิลูกใหญ่และไข่กุ้ง เป็นเมนูที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว"ปลากะพง Rico (219 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ใช้ปลากะพงเนื้อแน่นย่างไฟอ่อนๆ ทีเด็ดอยู่ที่น้ำซุป เปรี้ยว หวาน เค็ม ครบรส"ข้าวผัดพริกขิงหอยลายไข่ดาวออนเซ็น (159 บาท)" เน้นรสชาติจัดจ้านของเครื่องแกง ท็อปด้วยไข่ออนเซ็นที่เอามาทอดเป็นไข่ดาวอีกที เพื่อเพิ่มความมันนัวให้กับจานนี้"ข้าวผัดสมุนไพร ซี่โครงหมู Rico BBQ (159 บาท)" ตัวซี่โครงหมูเสิร์ฟพร้อมข้าวผัดสมุนไพร หอมซอส BBQ "เค้กเผือก (135 บาท)""มูสครีมชีสโยเกิร์ตเค้ก (135 บาท)" เค้กสีฟ้าพาสเทลน่ารัก ตัวโยเกิร์ตชีสเนื้อเนียนละมุน รสชาติหวานหอมเปรี้ยวมานั่งชิลฟินกับอาหารอร่อยๆ กันได้ที่ "Rico Beach Cafe & Restaurant" อยู่บางแสนล่างซอย 8 เลียบหาดวอนนภา ร้านเปิดทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 10.00-23.00 น./เสาร์-อาทิตย์ 07.00-23.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-4287-5664

  • Tsai Eatery คาเฟ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

    "Tsai Eatery" คาเฟ่น้องใหม่สไตล์วินเทจคลาสสิคติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีทั้งโซนห้องกระจกวินเทจ และโซน Outdoor ที่เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาทุกโต๊ะ เลือกนั่งริมน้ำรับลมเย็นๆ กันได้เลย ยิ่งตอนเย็นเปิดไฟแสงสวยๆ ยิ่งโรแมนติกมากอาหารของที่ร้านจะเป็นแบบผสมผสาน มีทั้งอาหารไทยดั้งเดิมที่มีกลิ่นอายของเครื่องเทศ อาหารจีน และยุโรป เป็นแบบโฮมเมดทานง่าย"สลัดปูนิ่ม" เสิร์ฟมาพร้อมน้ำสลัดสูตรพิเศษของทางร้านที่รสชาติเข้มข้น"ไก่นอกหม้อ และแป้งนาน" เป็นเมนูโบราณตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เนื้อไก่เคี่ยวกับพริกแกงและน้ำกะทิ รสชาติเข้มข้น"ผัดไทยไข่เค็มไชยา (กุ้งแม่น้ำ)" สูตรของทางร้านจะใส่ไข่เค็มบดละเอียดลงไปผัดกับเส้นให้ได้รสชาติที่หอมมัน เสิร์ฟมากับกุ้งแม่น้ำทอดตัวใหญ่เนื้อแน่น"ผัดฉ่าไก่ ไข่ลาวา" ผัดรสชาติจัดจ้าน หอมเครื่องสมุนไพร แล้วยังออนท็อปด้วยไข่ลาวาเพื่อเพิ่มรสชาติ"Croissant Sakura" "Coconut Coffee""B-Yellow C+" น้ำสับปะรดปั่นกับเสาวรส ทานแล้วให้ความรู้สึกสดชื่น"Bisque Cheese Cake" มาตามรอยร้านอร่อยๆ วิวดีๆ กันได้ที่ "Tsai Eatery" อยู่ที่ ซ.สมเด็จเจ้าพระยา 3 คลองสาน วันจันทร์-พฤหัส ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. และวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-7178-1378

  • Ve/La at Mediums Sukhumvit 42

    "Ve/La at Mediums Sukhumvit 42" ที่ Mediums Sukhumvit 42 เป็น Community ที่มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ทั้งโซน Gallery, โซนคาเฟ่, โซน Open Space ซึ่งจะเปลี่ยนตามธีมที่ตั้งในแต่ละเดือน, โซน Exhibition ที่จะแสดงผลงานของศิลปินซึ่งจะเปลี่ยนธีมไปเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน และโซน Studio ที่สามารถให้เช่าได้ ที่ Mediums มีขายทั้งอุปกรณ์ศิลปะและเครื่องเขียน มีมากกว่า 5,000 รายการ จากกว่า 100 แบรนด์ มีให้เลือกตั้งแต่สีอะคริลิค สีน้ำมัน ไปจนถึงสีน้ำ บรัช กระดาษ มีครบทุกอย่างเลยนอกจากนี้ยังมีโซนคาเฟ่ที่เปิดเป็นแบรนด์ลูกของ 'Mediums Sukhumvit 42' จะมีเสิร์ฟกาแฟทั้งเมล็ด Dusk and Dawn, กาแฟพิเศษ และกาแฟดริป นอกจากนี้ที่คาเฟ่ยังมีกิมมิคเล็กๆ อย่าง 'Choose Your Time' คือการแบ่งความเข้มของเมล็ดกาแฟตามช่วงเวลาอีกด้วย"White Basque Cheesecake (450 บาท)" ชีสเค้กหน้าใหม่ที่มาพร้อมกับเซตสีที่เป็นฟรอสติ้ง สำหรับแต่งหน้าเค้ก ซึ่งตัวเค้กจะเปรียบเสมือนแคนวาสให้เราได้เพ้นท์ลวดลายลงไปได้ตามชอบ"Cloudy (190 บาท)" กาแฟ Cold Brew เข้มข้นผสมกับวิปโฟมไวท์ช็อกโกแลต นุ่มละมุน ไม่ขมและไม่หวานจนเกินไป"Snowy (200 บาท)" เป็นนมซีเรียลผสมกับชอตกาแฟเข้มข้น หอมเมเปิลไซรัป เสิร์ฟมาพร้อมคุกกี้ช็อกโกแลตชิพใครสนใจอยากมาเดินเล่น ซื้อของ หรือนั่งพักจิบกาแฟชิลๆ มากันได้ที่ "Ve/La at Mediums Sukhumvit 42" อยู่ซอยสุขุมวิท 42 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-7958-9734

  • Goose Cafe BKK ร้าน Asian Twisted ย่านสุขุมวิท

    อีกหนึ่งร้านมาแรงที่เข้ามาในซอยปรีดีพนมยงค์ 1 ก็จะเจอกับ "ร้าน Goose Cafe BKK" คาเฟ่เก๋ๆ ที่เสิร์ฟความอร่อยในสไตล์ Asian Twisted ที่สำคัญมีห้อง Private ซึ่งตอบโจทย์สำหรับยุคนี้มากๆร้านจะตกแต่งโทนสีเขียว-เทา ดูเรียบเท่แบบ Modern Luxury ผสมโฮมมี่นิดๆ นอกจากนี้ทางร้านยังเสิร์ฟอาหารสไตล์ Asian Twisted ที่ผสมผสานความเป็นไทยและเอเชียนในทุกจานได้อย่างลงตัวทางร้านจะมีทั้งหมด 2 ชั้น แบ่งออกเป็นโซนคาเฟ่และชั้นบนเป็น Boutique Hotel ซึ่งไฮไลต์ของทางร้านคือมีห้อง Private Dining ห้องรับประทานอาหารส่วนตัวภายใต้คอนเซ็ปต์ 'ปลอดภัย ไร้กังวล' มีทั้งแบบ 4 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่งให้เลือก"Slow Cooked Braised Pork Green Curry & Roti (270 บาท)" เมนูแนะนำของทางร้านที่ใช้วิธีการนำเสนอแบบ Deconstructed "Tom Kha Barley Risotto & Roasted Seabass Fillet and Mushrooms (390 บาท)" เป็นเมนูที่มีการผสมผสานระหว่างไทย-อิตาเลียน ตัวข้าวบาร์เลย์ให้สัมผัสเคี้ยวหนึบหนับกับซอสต้มข่าเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมปลากะพงและเห็ดย่าง ก่อนทานต้องบีบมะนาวเพื่อเพิ่มรสชาติ"Scallops Alla Vodka Pasta (370 บาท)" เมนูที่ผสมผสานความเป็นอเมริกันเข้ากับพริกแห้งคั่วของไทย ตัวซอสมีความครีมมี่ รสชาติเผ็ดร้อน เมนูใช้วอดก้าเป็นส่วนประกอบหลักซึ่งเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งเพราะพอไฟลุก อาหารขางในจะมีความกลมกล่อมขึ้น"Beer Battered Seabass & Toast with Unripe Mango Salad (290 บาท)"มาทานอาหารอร่อยๆ ในไสตล์ Asian Twisted ได้ที่ "ร้าน Goose Cafe BKK" อยู่บนถนนสุขุมวิท 71 เข้าซอยปรีดีพนมยงค์ 1 ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-4872-4343 

  • นาเขา คาเฟ่ คาเฟ่นาขั้นบันไดกับวิวธรรมชาติ

    มาชาร์จพลังกับธรรมชาติสีเขียวที่เขาใหญ่ "นาเขา คาเฟ่" กับวิวขั้นบันไดและภูเขาสวยๆ โดยที่ร้านตกแต่งให้อิงกับธรรมชาติมากที่สุด ใช้ไม้ไผ่มาตกแต่งเกือบทั้งหมดเพื่อให้ออกแนว Tiki Bar และยังให้ความรู้สึกแบบชายทุ่งเข้ากับนาขั้นบันไดและภูเขาสีเขียวด้วย ส่วนอาหารก็เน้นเป็นอาหารไทยอีสาน เน้นความเผ็ด แซ่บ นัวของน้ำปลาร้า"หมูตกครก (100 บาท)" ใช้สันคอย่างหอมๆ มาตำกับเครื่องส้มตำแซ่บๆ เผ็ด เปรี้ยว เค็ม ครบรส"ตำโคราช (60 บาท)" สูตรของที่ร้านจะใส่น้ำปลาร้ามาแบบนัวๆ รสชาติแซ่บตามแบบฉบับคนโคราชแท้ๆ "หมูสามชั้นทอดน้ำปลาเสิร์ฟกับน้ำพริกลงเรือและแจ่วอีสาน (200 บาท)" สูตรเด็ดของทางร้านที่ใช้เวลาผัดน้ำพริกลงเรือนานกว่าครึ่งชั่วโมงให้หอมแล้วยังโรยหน้ามาด้วยไข่เค็มเพื่อเพิ่มรสชาติ"ผัดหมี่โคราช (150 บาท)" เป็นเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน เส้นหมี่โคราชจะให้สัมผัสที่เหนียวนุ่มต่างจากเส้นเล็กทั่วไป"ครัวซองต์อัลมอนด์ (90 บาท)""นาเขา (70 บาท)" เป็นลาเต้ท็อปด้วยมัทฉะแท้ 100%"ดินเหนียว (60 บาท)" เป็นเนมสดราดด้วยช็อคโกแลตเข้มข้นมาทานอาหารอร่อยๆ ชาร์จพลังกับธรรมชาติสีเขียวได้ที่ "นาเขา คาเฟ่" อยู่ตรงข้าม แลนด์บรีซ รีสอร์ท อ.ปากช่อง ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-1600-3538

  • Laoteng ร้านอาหารจีนลับๆ ย่านเยาวราช

    "Laoteng" ร้านอาหารจีนเก๋ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 2 ตามชื่อร้านว่า 'เหล่าเต๊ง' ที่แปลว่าร้านที่อยู่ชั้นบน ทางร้านเสิร์ฟทั้งเมนูติ่มซำและอาหารจีนดั้งเดิมในบรรยากาศจีนโมเดิร์นนอกจากอาหารที่คัดสรรวัตถุดิบอย่างดี และคิดค้นสูตรเฉพาะตัวแล้ว บรรยากาศร้านก็เป็นจุดเด่นที่เหล่าลูกค้าจะสามารถเห็นวิวมุมสูงของถนนสายมังกรได้จากบนร้านเลย ตัวร้านจะตกแต่งในสไตล์จีนโมเดิร์นผมผสานความคลาสสิกเอาไว้ "ถุงเงินถุงทอง เห็ดทรัฟเฟิล (120 บาท)" ไส้ด้านในเป็นกุ้งกับมันหมู และมีความหอมของ Truffle Oil หน่อยๆ"ข้าวเหนียวห่อใบบัวหอยเป๋าฮื้อ (220 บาท)" เป็นติ่มซำสไตล์ดั้งเดิม ธัญพืชแน่นๆ และเพิ่มความพิเศษตรงหอยเป๋าฮื้อ"ฮะเก๋าฟัวกราส์ (150 บาท)" "ขนมจีบกุ้งอิคุระ (200 บาท)" "ซาลาเปาลาวาไข่เค็ม (100 บาท/ 3 ลูก)" "ซุปปลาเก๋าหมาล่า (380 บาท)" ซุปผัดกาดดองกับสมุนไพรจีน ได้ความเผ็ดเบาๆ ของหมาล่า"หอยเชลล์ USA ซอส XO (ไซส์ S 500, ไซส์ M 800, ไซส์ L 1,200 บาท)" ใช้หอยเชลล์ส่งตรงจากอเมริกา ผัดกับซอส XO สูตรของทางร้านมาทานอาหารจีนอร่อยๆ ได้ที่ "Laoteng" อยู่บนชั้น 2 ตึกริมถนนใกล้ Deksomboon Shop ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-6245-4242

  • Let Me Tell You Our Story Cafe

    ต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก Valentine's Day ด้วยคาเฟ่โรงนาสุดโรแมนติกที่ "Let Me Tell You Our Story Cafe" มาเพลิดเพลินกับความสวยงามของโรงนาสไตล์วินเทจและดอกไม้ละลานตา ที่ไม่ว่าโซน Indoor หรือ Outdoor ก็ถ่ายรูปสวยทุกมุมคอนเซ็ปต์ของร้านที่ตกแต่งออกมาในสไตล์โฮมมี่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้านกลางสวนนั้น เกิดจากความชื่นชอบทำขนมและการตกแต่งบ้านของ 'คุณทราย' เจ้าของร้าน อีกทั้งความชื่นชอบในเรื่องการดื่มกาแฟของแฟนคุณทราย จึงนำความชอบเหล่านี้มาผสมผสานกันจนเกิดเป็นร้านแห่งนี้ขึ้นมา ซึ่งทางร้านจะเปลี่ยนธีมการตกแต่งไปเรื่อยๆ ตามเทศกาลอีกด้วย"Dark Beer Chocolate Cake (140 บาท)" สูตรของทางร้านจะใช้เบียร์ดำผสมโกโก้ แล้วปาดหน้าเค้กด้วยครีมชีสแบบเข้มข้น"Lemon Honey Cheesecake (140 บาท)" เมนูขายดีของทางร้านอีกหนึ่งตัว ความอร่อยจะอยู่ที่ตัวฐานของบิสกิตที่ทำเอง ตัวเค้กผสมกับน้ำเลมอนเพิ่มความหอมลงไปด้วย"Modovik Honey Russian (160 บาท)" เมนูซิกเนเจอร์ เป็นเค้กน้ำผึ้งสไตล์รัสเซีย ซึ่งตัวแป้งเค้กจะผสมกับน้ำผึ้งดอกลำไย ทำให้ได้รสชาติหวานตัดกับตัวครีมที่มีรสเปรี้ยว"Espresso Con Panna (80 บาท)" เป็นการผสมผสานระหว่างความเข้มข้นของเอสเปรสโซและความหวานมันของวิปครีม"กะเพราคอหมูทอด (65 บาท)" "สปาเกตตีเบคอนพริกแห้ง (90 บาท)" "เบอร์เกอร์หมูชาร์โคล (119 บาท)" เมนูน้องใหม่มาแรงที่ได้ทั้งเท็กซ์เจอร์ของหมูบดผสมกับมันหมูเพื่อความฉ่ำ และขนมปังชาร์โคลโฮมเมด"Grape Fruit Coffee (120 บาท)" "Sparkling Lychee Coffee (120 บาท)" ใครที่กำลังมองหาร้านบรรยากาศดีๆ อาหารอร่อยๆ ก็มากันได้ที่ "Let Me Tell You Our Story Cafe" อยู่ซอยวัดศรีวารีน้อย อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. (หยุดวันพฤหัส)

  • S'amuser บาร์ลับย่านฝั่งธนฯ

    "S'amuser (ซามูเซ่)" บาร์ลับที่ซ่อนตัวอยู่บน Rooftop ของร้านสูท M Custom Made 1978 ย่านวงเวียนใหญ่ ซึ่งกำลังฮอตฮิตมากในโซเชียล กับวิวสวยๆ และเมนูอาหารที่มีคอนเซ็ปต์สนุกๆ ตามชื่อร้านคอนเซ็ปต์ของร้าน S'amuser เกิดจากการที่ลูกค้าของร้าน M Custom Made 1978  ต้องรอเวลาตัดสูทนาน จึงคิดหาพื้นที่ให้ลูกค้าได้พักผ่อนทานอาหาร จึงเกิดเป็นไอเดียทำเป็นร้านอาหารแนวบาร์ไว้ให้ได้มาสนุกกันตามชื่อของร้าน 'S'amuser' ในภาษาฝรั่งเศสแปลว่า 'ความสนุก'  โดยอาหารของทางร้านจะเป็นสไตล์เอเชียนฟิวชั่น เหล่าลูกค้าจะได้เพลิดเพลินกับอาหารที่แปลกใหม่และสนุกกับรสชาติที่ทานง่าย"French Fries Dip Roulette (299 บาท)" มาพร้อมกับ 4 ซอส สุดพิเศษให้ได้ลุ้นกัน โดยประกอบไปด้วย ซอสบราวา (มะเขือเทศ, น้ำผึ้ง, ผงปาปริก้า), ซอสมายองเนสวาซาบิ และ Secret ซอส 2 สูตร ซึ่งเป็นซอส Bomb "สเต๊กปลากะพงซอสต้มข่า (350 บาท)" นำปลากะพงขาวสดๆ ทั้งชิ้นมากริลล์ให้หนังกรอบแต่เนื้อปลายังชุ่มฉ่ำ แล้วราดด้วยซอสต้มข่าสูตรของทางร้านที่เคี่ยวนานจนเข้มข้นลงไป"Graciosa (350 บาท)" เครื่องดื่มเก๋ๆ ที่มีชื่อภาษาสเปน แปลว่า สนุก เสิร์ฟมาในกรงจึงสื่อถึงการล่าวัวกระทิงของสเปน เบสหลักของเครื่องดื่มเป็นสตรอว์เบอร์รีสด กระเจี๊ยบไซรัป รสชาติออกเผ็ดนิดๆ จากพริกชี้ฟ้าแดง"Tanoshi (350 บาท)" ชื่อเมนูมาจากภาษาญี่ปุ่น แปลว่า สนุก โดยเบสหลักเป็นน้ำแอปเปิ้ลและเมลอนไซรัป ผิวหน้าเป็นชูก้าชีสที่สามารถบอกทางร้านล่วงหน้าได้ว่าอยากได้รูปอะไร"ยำโบราณเส้นคาเปลลินี (250 บาท)" เป็นเมนูฟิวชั่นเก๋ๆ ที่ใช้คาเปลลินีคลุกเคล้ากับเสูตรยำโบราณ หอมมะนาวแท้"ข้าวกะเพราเบอร์เกอร์หมู (380 บาท)" เมนูแนะนำที่ย่างหมูคุโรบูตะไปพร้อมๆ กับซอสกะเพราเพื่อให้ซอสเข้าถึงเนื้อ เสิร์ฟคู่กับข้าวญี่ปุ่นนุ่มๆ ไข่ดาวเยิ้มๆ เพิ่มความหอมด้วยพริกยักษ์เผามาสนุกสนานไปกับร้านลับบรรยากาศดีที่ "S'amuser" อยู่ซอยเจริญรัถ 6 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 18.00-23.00 น. (ปิดทุกวันอังคาร) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-8894-2878

  • Chivit Issara ชีวิตอิสระ ร้านอาหารไทยโฮมเมดสุดคิ้วท์

    ช่วงวันหยุดแวะมาเที่ยวสมุทรปราการมีร้านน่ารักๆ ถ่ายรูปสวยๆ อาหาอร่อยๆ มาแนะนำ "ร้าน Chivit Issara ชีวิตอิสระ" คาเฟ่บ้านไม้หลังเล็กแสนอบอุ่นใต้ต้นดอกปีบกับอาหารไทยรสมือคุณแม่ 'ร้าน Chivit Issara ชีวิตอิสระ' เกิดจากความตั้งใจของ 'คุณนุช' เจ้าของร้านที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาใช้ชีวิตอิสระด้วยการเปิดคาเฟ่เล็กๆ ในพื้นที่บ้าน และยังตั้งชื่อร้านตามชื่อกระรอกน้อยที่วิ่งเล่นไปมาอย่างอิสระตามต้นปีบภายในร้านมานานจนคุณนุชตั้งชื่อว่า 'เจ้าอิสระ' อาหารของทางร้านมีทั้งเมนูคาวและหวาน อีกทั้งยังเป็นเมนูโฮมเมดทั้งหมด ซึ่งความพิเศษของเมนูที่ร้านคือการใช้วัตถุดิบ OTOP ในพื้นที่มาสร้างสรรค์เมนูภายในร้าน"ข้าวแมวขโมย" เมนูไฮไลต์ที่เป็นข้าวคลุกปลาทูบ้านๆ เสิร์ฟร้อมน้ำปลาพริก เป็นเมนูที่ทำให้นึกย้อนถึงวัยเด็ก"ข้าวผัด OTOP (ข้าวผัดปลาสลิด)" ทางร้านเลือกใช้ปลาสลิดสินค้า OTOP ประจำจังหวัดสมุทรปราการมาผัดร่วนๆ จนหอมกลิ่นกระทะ"หมี่กระเฉดกุ้งสด" ใช้กระเฉดยอดอ่อนและกุ้งเต็มคำ ใส่กะปิและน้ำมันพริกสูตรเฉพาะของคุณยายลงไปด้วย ซึ่งช่วยทำให้รสชาติจัดจ้านขึ้น"ทาร์ตเสาวรส" มีส่วนผสมของเสาวรสสดๆ และตกแต่งด้วยผลเสาวรสสดๆ"เค้กมะพร้าวอ่อน" ทางร้านใช้มะพร้าวน้ำหอมสดๆ จากอำเภอบางคล้า ฉะเชิงเทรา ราดด้วยซอสกะทิ"Black Coffee Coconut" ผสมกับน้ำมะพร้าวน้ำหอมสดๆ จากลูก"เสาวรสโซดา" เสาวรสจากโครงการหลวง หวานอมเปรี้ยว ทานแล้วสดชื่นมาโฮมคาเฟ่น่ารักๆ ทานอาหารรสมือคุณแม่ได้ที่ "ร้าน Chivit Issara ชีวิตอิสระ" อยู่ ถ.เทพารักษ์ ตรงข้ามซอยจตุรมิตร 6 ร้านเปิดวันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-3074-3343 

  • Destination Sukhumvit Cafe & Restaurant

    "Destination Sukhumvit Cafe & Restaurant" ร้านอาหารและคาเฟ่ในสวนสวยย่านปากน้ำ สมุทรปราการ กับโซนบ้านไม้โบราณที่มีอายุกว่า 80 ปี โดยจะให้เกียรติกับสถาปัตยกรรมเดิมที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด ด้วยการตกแต่งร้านในสไตล์ Classy Homie ในสวนสวยโบราณ รวมถึงยังมีส่วนของ Glass House และคาเฟ่ที่ตกแต่งสไตล์ Industrial เพื่อให้ร้านมีคอนเซ็ปต์ที่หลากหลายเมนูอาหารของทางร้านเป็นอาหารไทยร่วมสมัยและไทยโบราณ โดยจะคัดสรรวัตถุดิบอย่างดีจากแหล่งต่างๆ มาทำในแต่ละเมนู "แกงรัญจวน (290 บาท)" เมนูโบราณหาทานยากที่จะใช้สันคอหั่นเต๋า ตุ๋นนานกว่า 4 ชั่วโมงจนนุ่ม น้ำแกงจะต้มด้วยน้ำพริกกะปิ หอมแดง ตะไคร้ และโหระพา พอเดือดได้ที่จะได้กลิ่นหอมรัญจวนสมชื่อ"นางพญาร้อยชู้ (250 บาท)" ใช้เนื้อหมูเอามาผัดกับเครื่องเทศไทยที่เผ็ดร้อน ทั้งพริกไทยอ่อน กระชาย กระเทียมโทนสับ พริกสดทั้งเหลือและแดง ใบมะกรูด โหระพา"ปลากะพง 2 หน้า (450 บาท)" เมนูขายดีของทางร้าน มีทั้งแบบทอดกระเทียมและผัดพริกไทยดำ ซึ่งซอสที่ใช้ผัดก็เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านอีกด้วย"Strawberry Cheesecake (130 บาท)" "ปลาหมอแดดเดียวทอด (290 บาท)" ส่งตรงมาจากนครชัยศรี ในบ่อเลี้ยงของทางร้าน มั่นใจได้ทั้งคุณภาพและความสะอาด โดยจะทอดจนเหลืองสวยจนสามารถทานได้ทั้งชิ้น เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มมะม่วงและน้ำจิ้มแจ่ว"เนื้อปูผัดพริกฮ่องกง (450 บาท)" ด้วยความที่ตัวร้านอยู่ใกล้ตลาดปากน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งของทะเลสด เนื้อปูทะเลชิ้นใหญ่ๆ นำมาคั่วกับพริกสดสับผสมกับเต้าซี่ฮ่องกง ได้กลิ่นหอมกระทะ"ยำถั่วพู (250 บาท)" ใช้ถั่วพูสดเขียวมาน็อคน้ำแข็งเพื่อให้กรอบ แล้วลวกกึ่งสุกกึ่งดิบให้ยังมีความหวานและประโยชน์ยังอยู่ครบ และเครื่องยำสูตรโบราณของทางร้าน"Destiny's Honey Toast (199 บาท)" "Destination Sukhumvit Cafe & Restaurant" อยู่ที่ปากซอย 29 วินิจเนรมิต ติด BTS ปากน้ำ โซนคาเฟ่ เปิดตั้งแต่เวลา 08.00-20.00 น. และโซนร้านอาหาร เปิดตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. (หยุดวันอังคาร) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-7252-7521, 0-2029-9671

Follow us on INSTAGRAM