• คุ้น.เคย Eatery, Cafe & Bar

    "คุ้น.เคย Eatery, Cafe & Bar" ร้านอาหารใต้แบบหรอยแรงย่านรัชดาที่ส่งตรงจาก อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ตัวร้านเป็นบ้านเก่าอายุหลายสิบปีที่ถูกดัดแปลงให้เป็นคาเฟ่อาหารใต้ ซึ่งที่มาของชื่อร้าน 'คุ้นเคย' นั้นมาจากคำว่า 'เคย' ที่สื่อได้ถึง 2 ความหมายคือ กะปิในภาษาใต้ และอยากให้ลูกค้ามานั่งทานข้าวเหมือนอยู่ที่บ้านแบบคุ้นเคย จึงเป็นที่มาของชื่อร้าน 'คุ้นเคย' แห่งนี้เริ่มด้วยเมนูซิกเนเจอร์อย่าง "สะตอผัดกุ้ง (220 บาท)" ที่ทางร้านใช้กะปิอย่างดีจากกุ้งเคยที่มีกลิ่นหอมชัดเจน"แกงหมูฟักทอง (180 บาท)" เมนูอาหารใต้หาทานยาก ใช้หมูติดมันหมักมาเคี่ยวกับเครื่องแกงพริกใต้และกะทิ"แกงพริกกระดูกหมู (160 บาท)" กระดูกหมูเคี่ยวในพริกแกงนานกว่า 2 ชั่วโมง จนเปื่อยนุ่ม"ต้มหมูใบชะมวง (160 บาท)" เมนูนี้จะไม่เหมือนกับทางจันทบุรี จะเป็นซุปใสแบบใต้ ใช้เวลาเคี่ยวกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อให้ได้รสเปรี้ยวปิดท้ายด้วยของหวานชื่นใจ "น้อยหน่านมสด (55 บาท)" น้อยหน่าในรูปแบบน้ำแข็งใสอัดก้อน ช่วยดับความเผ็ดร้อนของเครื่องแกงใต้ได้ดีสายอาหารใต้ต้องมาลองความเผ็ดร้อนถึงเครื่องพริกแกงกันที่ "คุ้น.เคย Eatery, Cafe & Bar" อยู่ที่ซอยรัชดาภิเษก 7 นาทองแยก 6 ร้านเปิดวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-3264-9888

  • แกงป่าศรีย่าน หลากหลายเมนูแกงป่ารสเด็ด

    "แกงป่าศรีย่าน" ร้านแกงป่าในตำนานกว่า 43 ปี ใครได้ลองต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อยเผ็ดร้อนถึงเครื่องสุดๆ ไปเลยที่มาของเมนูแกงป่าสุดเผ็ดร้อนเกิดจากคุณแม่ของเจ้าของร้านเปิดร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ แล้วได้ทำแกงป่าขาย ลูกค้าได้ชิมแล้วติดใจด้วยความเผ็ดร้อนแบบถึงพริกถึงขิงของเครื่องแกงทำเองโดยใช้พริกแห้งในการทำ และแกงป่าสูตรของคุณแม่ยังเลือกใส่วัตถุดิบที่หลากหลาย ทั้งปลาดุกย่าง ลูกชิ้นปลากราย กบ นก หมูป่า  คำว่า 'แกงป่า' จึงกลายมาเป็นชื่อร้านและเมนูเด็ดมาจนถึงทุกวันนี้ เริ่มด้วยเมนูซิกเนเจอร์ของร้านเลย "แกงป่าปลาดุกย่าง (100 บาท)" สามารถเลือกวัตถุดิบที่จะใส่ในแกงป่าเองได้ตามชอบ"แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย (100 บาท)" เมนูนี้จะใช้พริกแกงทำเองมาผัดจนหอม เติมกะทิเคี่ยวให้แตกมัน ตัวลูกชิ้นปลากรายก็ทำเอง เป็นเนื้อปลากราย 100% ไม่ผสมแป้ง และโรยด้วยกระชายเพื่อชูกลิ่นและรสชาติอีกหนึ่งเมนูเด็ดของที่ร้าน "แกงคั่วหอยขม (120 บาท)" ใช้พริกแกงป่าเป็นเบสแล้วมาแปลงให้เป็นพริกแกงคั่ว ส่วนตัวหอยขมทางร้านต้มเอง แกะเองทุกตัว และแกงคั่วของที่ร้านจะใส่ทั้งใบชะอม และใบชะพลูแน่นๆ ทำให้ได้กลิ่นหอมเฉพาะตัว"ปลาดุกฟูฝอยผัดพริกขิง (120 บาท)" "ฉู่ฉี่พุงปลาช่อน (เริ่มต้น 120-180 บาท)" ใครอยากทานแกงป่ารสชาติแซ่บจัดจ้านมากันได้ที่ "ร้านแกงป่าศรีย่าน" อยู่ที่ ถ.นครไชยศรี ติดกับที่ทำการไปรษณีย์ดุสิต ร้านเปิดวันจันทร์-เสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2241-4216

  • ยุ้งข้าวหอม หรอยแรงกับอาหารใต้จากสมุย

    พาความหรอยของร้านดังแห่งเกาะสมุยมาอยู่ที่จุฬาฯ กับ "ร้านยุ้งข้าวหอม" ที่ยกทั้งสูตรลับและวัตถุดิบส่งตรงจาก "ร้านข้าวหอม" ร้านขวัญใจนักชิมที่ใครไปสมุยก็ต้องห้ามพลาด การันตีความอร่อยเหมือนไปกินที่สมุยด้วยรางวัลมิชลินเพลทถึง 3 ปีซ้อนจุดเริ่มต้นของ "ร้านยุ้งข้าวหอม" เกิดจากคุณบอลเจ้าของร้านได้ไปเที่ยวสมุยและได้ไปลองทาน "ร้านข้าวหอม" ซึ่งทุกครั้งที่ไปทานร้านนี้ก็จะไปเจอกับคุณป้าเจ้าของร้าน ได้พูดคุยจนเกิดความสนิทสนมจึงตกลงขอสูตรมาเปิดในกรุงเทพฯ"หมูกะปิ (180 บาท)" ใช้สันคอหมูคุโรบูตะผัดใส่กะปิ เสิร์ฟมาพร้อมกับพริกขี้หนูสวน หอมแดง และใบมะกรูด เวลาทานคลุกเคล้าทุกอย่างเข้าด้วยกัน และบีบมะนาวเสริมรสเข้าไป"ปูผัดพริกขี้หนูสวน (550 บาท)" กรรเชียงปูชิ้นใหญ่คัดพิเศษ ผัดมาแบบหอมพริกขี้หนูแถมใส่กระเทียมเม็ดใหญ่มาไว้ทานพร้อมเนื้อปูหวานๆ "แกงส้มปลาอินทรี (150 บาท)" เนื้อปลาอินทรีย์ชิ้นใหญ่สดๆ เนื้อเด้ง ต้มกับพริกแกงส้มส่งตรงจากครัวข้าวหอม และเพิ่มความฟินด้วยยอดมะพร้าวอ่อนอีกหนึ่งเมนูการันตีรางวัลมิชลิน "ต้มส้มปลาเค็มหมูสามชั้น (180 บาท)" ตามมาหรอยแรงกับอาหารใต้จากสมุยกันได้ที่ "ร้านยุ้งข้าวหอม" ในโครงการ แอมพาร์ค จุฬา ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-3465-6565

  • Happy Elephant อาหารใต้พื้นเมืองจากสมุย

    "Happy Elephant" ร้านอาหารพื้นบ้านสมุยแท้ๆ จากสมุยมาเปิดใหม่ในกรุงเทพฯ แต่เป็นร้านเก่าแก่ที่อยู่คู่กับเกาะสมุยมานานกว่า 26 ปี เริ่มด้วยเมนูพื้นบ้านสมุยแท้ๆ "เคยเจ (50 บาท)" หรือกะปิย่าง เมนูนี้จะใช้กะปิอย่างดีมาปรุงรสเล็กน้อยแล้วทาบนเนื้อมะพร้าว นำไปย่างจนสุก หอม กรอบ ทานกับผักสดที่เสิร์ฟมาคู่กันเมนูเด็ดต้องห้ามพลาด "วายสดคั่วกะทิ (280 บาท)" วายสดหรือปลาหมึกสายส่งตรงจากทะเลสมุย นำมาคั่วกับกะทิที่ทางร้านขูดมะพร้าวและคั้นน้ำกะทิเอง"ห่อหมกทะเลในลูกมะพร้าวอ่อน (260 บาท)" เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าวพร้อมเครื่องทะเลแน่นๆ หอมกลิ่นเครื่องแกง ราดกะทิเข้มข้น"ยำหอยเจาะสด (250 บาท)" หอยสดเนื้อแน่นๆ วัตถุดิบพรีเมี่ยมส่งตรงจากทะเลสมุย กินกับน้ำยำรสแซ่บจัดจ้านตามมาฟินกับอาหารใต้พื้นเมืองจากสมุยที่ "ร้าน Happy Elephant" ตั้งอยู่ในโครงการก่อนถึง ซอย นวลจันทร์ 11 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 06-1149-5195

  • ร้านอาหารโกตุง อาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของ จ.กระบี่

    "ร้านอาหารโกตุง" ร้านอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของจังหวัดกระบี่กว่า 42 ปี ที่ใส่ใจทุกขั้นตอนการทำ วัตถุดิบที่ใช้สดใหม่ รับจากชาวประมงวันต่อวัน"กุ้งแชบ๊วยผัดซอสมะขาม (เริ่มต้นจานละ 180 บาท)" ใช้กุ้งแชบ๊วยไซส์ใหญ่ เนื้อเด้ง ทอดมากรอบๆ ผัดกับซอสมะขามรสชาติเข้มข้น"สามชั้นทอดเครื่อง (120-170 บาท)" เมนูแนะนำของทางร้าน สามชั้นทอดกรอบกำลังดี เค็มๆ มันๆ แทรกด้วยความเผ็ดและความหอมของเครื่องแกงอีกหนึ่งเมนูยอดฮิตของอาหารใต้ "แกงส้มปลากะพงออดิบ (150-200 บาท)" เนื้อปลากะพงสดๆ ทานคู่กับผักคู่ครัวคนใต้อย่างออดิบกรอบๆเมนูเด็ดของทางร้าน  "แกงกะทิเนื้อปู + หมี่ลวก (180-250 บาท)" ที่ร้านเลือกใช้กรรเชียงปูล้วนๆ ระหว่างที่ต้มกับเครื่องแกงกะทิจะไม่คนเลย ทำให้เนื้อปูมาเป็นก้อนสวย ทานคู่กับหมี่ลวกอิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมืองของ จ.กระบี่ ได้ที่ "ร้านอาหารโกตุง" เลขที่ 66 ถนนมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร.0-7565-6822

  • เกษราตำรับคุณแม่ อาหารใต้พื้นบ้านสูตรพังงา

    ถ้าพูดถึงอาหารใต้หรอยๆ สูตรพังงาต้อง "ร้านเกษราตำรับคุณแม่" รับรองถูกใจสายโฮมมี่แน่นอนเพราะให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนกินอยู่ที่บ้าน คุณแม่น้อยใส่ใจลงมือปรุงเองทุกจาน สืบทอดสูตรกันมาจากรุ่นสู่รุ่น เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารใต้เด็ดๆ ที่ไม่ควรพลาดเมนูพื้นบ้านสูตรพังงาของที่ร้านนั้นได้สูตรมาจากคุณแม่สามีของคุณแม่น้อยเจ้าของร้าน ที่เป็นคนอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ที่ชอบทำอาหารใต้มาให้ทานจึงได้ศึกษาสูตรอาหารมาจากท่าน หลังจากนั้นจึงมาเปิดร้านอาหารโดยทุกเมนูและเครื่องแกงล้วนทำเองทุกหมด"แกงคั่วพริกซี่โครงหมู" ใช้ทั้งซี่โครงหมูะธรรมดาผสมกับซี่โครงหมูอ่อนเพื่อให้สัมผัสเวลาเคี้ยวมีความกรุบๆ ของกระดูกอ่อนด้วย ผัดกับเครื่องแกงจนเข้าเนื้อ เวลาทานได้กลิ่นหอมของพริกไทยดำ"หมูฮ้องสูตรพังงา" รสชาติเค็มนำหวานตาม ใช้หมูสามชั้นที่มีส่วนเนื้อหนากว่ามัน คลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศและปรุงรส หมักจนซึมเข้าเนื้อ แล้วค่อยตุ๋นด้วยไฟอ่อนจนสุก แล้วยกกระทะลงไปเคี่ยวต่อบนเตาถ่านอีก 1 ชั่วโมงเพื่อให้มีความหอมอีกหนึ่งเมนูอาหารใต้ที่ทุกร้านต้องมี "แกงไตปลา" เป็นเมนูถนอมอาหารของคนใต้ ความพิเศษอยู่ที่ไตปลาหมักเอาไว้อย่างน้อย 1 อาทิตย์ ทำให้แกงไตปลาของที่ร้านสีเข้มกว่าที่อื่น และรสชาติเข้มข้น"ขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้" น้ำยาปักษ์ใต้แท้ๆ ต้องเป็นน้ำยาปลา ทางร้านจึงเลือกใช้ปลาน้ำดอกไม้ เนื้อจะหวาน แล้วก็ฟู ทำให้น้ำยาดูน่ากินมาหรอยกับอาหารใต้พื้นบ้านสูตรพังงาได้ที่ "ร้านเกษราตำรับคุณแม่" หมู่บ้านพิบูลวัฒนา ซอย 9 ร้านเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์  ตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. 08-9691-5835

  • จันทน์หอม อาหารปักษ์ใต้สไตล์โฮมเมด

    "จันทน์หอม" ร้านอาหารปักษ์ใต้ย่านเลียบด่วนเอกมัย บรรยากาศสไตล์บ้านๆ แต่รสชาติอาหารจัดจ้านถึงเครื่องแกงใต้แบบชาวสุราษฎร์แท้ๆ ด้วยฝีมือคุณแม่แป๊วที่ลงมือปรังเองทุกเมนู เปิดมานานกว่า 21 ปี ตำรับพื้นถิ่น จ. สุราษฎร์ธานี และวัตถุดิบยังคัดสรรคส่งตรงมาจากทะเลใต้แบบสดๆเริ่มด้วยเมนูยอดฮิตที่สั่งกันแทบทุกโต๊ะ "แกงส้มปลาหัวบอน (เผือกหอม) (160 บาท)" เมนูนี้เลือกใช้ปลากระบอกขนาดกำลังดี ไม่มีกลิ่นคาว เผือกหอมต้มมานุ่มๆ ซดกับน้ำแกงหอมเครื่องแกงร้อนๆ "แกงคั่วเห็ดแครงปลาโอย่าง (150 บาท)" สูตรลับที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย เมนูข้มข้นหอมถึงเครื่องแกง"ยำมะม่วงอ่อนกุ้งสด (140 บาท)" เมนูนี้สูตรของทางใต้จะใส่กะทิเข้าไปด้วย ทำให้รสชาติกลมกล่อม ไม่เปรี้ยวไป ไม่เผ็ดไป โขลกทุกอย่างรวมมาแบบหยาบๆ เสิร์ฟมาพร้อมปลาทอด"สายบัวต้มปูเค็ม (140 บาท)" ทางร้านใช้ปูแสมดำที่ดองกับเกลือทะเลไว้ 3 วัน ต้มกับกะทิ ตะไคร้ หัวหอม ใบมะกรูด และสายบัวอ่อนๆมาอิ่มอร่อยกับอาหารปักษ์ใต้โฮมเมดกันได้ที่ "ร้านจันทน์หอม" อยู่ที่ 273/4 รามคำแหง ซอย 21 ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2319-1128

  • บ้านพี่แยม อาหารใต้พื้นเมืองชาวสงขลา

    "บ้านพี่แยม" ร้านอาหารใต้ที่เน้นเมนูพื้นเมืองของชาวสงขลา ที่สำคัญเจ้าของคือ 'พี่แยม - ฐปณีย์' ที่พลิกบทบาทจากผู้ประกาศสาวขาลุย มาส่งความหรอยถึงเครื่องแกงใต้ให้ทุกคนได้ทานกัน"ขนมจีนน้ำยาปู ชุดหม้อไฟซีฟู้ด (120 บาท)" ขนมจีนน้ำยาที่เสิร์ฟมาเป็นหม้อไฟ อัดแน่นไปด้วยซีฟู้ดทั้งปลากะพง กุ้ง หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปูนึ่งเป็นตัวๆ และปูก้อน"ข้าวยำ (60 บาท)" ทางร้านใช้น้ำบูดูที่ส่งตรงมาจากบ้านที่สงขลา รสชาติดั้งเดิมแท้ๆ แล้วใส่หมี่หุ้นเข้าไปด้วย"เต้าคั่ว (80 บาท)" ของดีเมืองสงขลา ถ้าได้ไปสงขลาต้องลอง เมนูนี้มีทั้งหมี่ลวก ถั่วงอก ผักบุ้ง แตงกวา ทานกับเต้าหู้ทอด กุ้งทอด และหูหมู ทีเด็ดอยู่ที่น้ำซอส รสชาติเปรี้ยวหวานใครที่คิดถึงอาหารใต้พื้นบ้านสงขลาแท้ๆ มาทานกันได้ที่ "ร้านบ้านพี่แยม" อยู่ที่ 119/21 ถนนเทิดราชัน โครงการเอสการ์เด้นส์ ร้านเปิดตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. (หยุดทุกวันพุธ) สอบถามเพิ่มเติม โทร. 09-9132-3437

  • ใจดี Shrimp หรอยแรงแกงใต้สไตล์โฮมเมด

    หรอยแรงแกงใต้เหมือนบินไปกินที่นครฯ "ใจดี Shrimp" ทีเด็ดอยู่ที่วัตถุดิบโดยเฉพาะของทะเลต่างๆ ที่ส่งตรงมาจากทางใต้ สด ใหม่ ไซส์ใหญ่ เครื่องแกงทำเองทุกขั้นตอนวัตถุดิบต่างๆ ส่งตรงจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ว่าจะเป็นกุ้งจากฟาร์มกุ้งของทางร้าน ซึ่งได้มาตรฐาน GAP ของกรมประมง รังรองว่าสด สะอาด ปลอดภัย เนื้อปลากะพงและปูม้าก็มาจากนครศรีธรรมราช ปลาทูนึ่งจากแม่กลอง"คั่วกลิ้งสับ (160 บาท)" ใช้กุ้งขาวอย่างดีจากฟาร์มของที่ร้านเอง ผัดจนหอมกลิ่นเครื่องแกง อีกหนึ่งเมนูหาทานยาก "มันปูผัดกะทิ (180 บาท)" เอามันปูไปเคี่ยวกับน้ำตาลและกะทิประมาณ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำมาจากฟาร์มที่สุราษฎร์แล้วส่งมาให้ เพราะต้องใช้มันปูสดๆ จากกระดอง ปูม้าที่จับได้เลย ผัดกับเนื้อปูก้ามอ่อน ได้ความมันจากมันปูแล้วก็ความหอมหวานจากเนื้อปูม้าสดๆ"ต้มกะทิกุ้งสดยอดมะพร้าวอ่อน (160 บาท)" เครื่องมาแน่นๆ ทั้งกุ้งขาว ยอดมะพร้าวอ่อน สะตอ และชะอม ซึ่งถ้าใครไม่ทานสะตอกับชะอม ก็สามารถเลือกใส่เป็นใบเหลียงแทนได้"ชุดน้ำพริกกะปิมะม่วงกุ้งสับ-ปลาทูทอด (160 บาท)" ทางร้านจะคั่วกะปิในกระทะจนหอมก่อนนำไปทำน้ำพริกกะปิกุ้งสับ กะปิทางร้านจะหมักเองจากสุราษฎร์ ใช้เวลา 2-3 เดือน จนได้กะปิที่หอมเมนูทานเล่นที่แนะนำ "กุ้งบะช่อ (160 บาท)" หอมกลิ่นสามเกลอ ทอดจนได้สีเหลืองทอง กรอบนอกฉ่ำในปิดท้ายด้วย "ต้มโฮ้ปลากะพง (180 บาท)" เมนูพื้นบ้านของชาวประมง ต้มกับมะขามเปียก เมนูนี้จะคล้ายๆ ต้มส้ม โดยที่ร้านจะเอามาดัดแปลงใส่เต้าเจี้ยวลงไปตัดเลี่ยน ใช้ปลากะพงไซส์ใหญ่ เนื้อแน่นใครที่คิดถึงความจัดจ้านของอาหารทะเลและเครื่องแกงใต้ มาทานกันได้ที่ "ร้านใจดี Shrimp" อยู่ที่ซอยร่วมมิตรพัฒนา ใกล้ห้าแยกวัชรพล ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. สอบถามเพิ่มเติม โทร.0-2948-2712

  • Ginprik Thailand - กินพริก ร้านอาหารไทยจัดจ้านถึงเครื่อง พุทธมณฑลสาย3

    "ร้านกินพริก" ร้านอาหารไทยสุดฮอตในโซเชียลที่ไม่ได้มีดีแค่อาหารเผ็ด แต่ยังจัดจ้านร้อนแรงด้วยเครื่องเทศ และมีอาหารครอบคลุมเกือบทุกภาค โดยเชฟจะดึงจุดเด่นของอาหารแต่ละภาคมาผสมผสานกันไว้อย่างลงตัว บรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์ Modern Loft ทำให้บรรยากาศเหมือนดูชิลเหมือนมาทานอาหารบ้านเพื่อน ที่มาของชื่อร้านกินพริก หมายถึงการให้เครื่องเทศเยอะ เน้นเรื่องความอร่อยในหนึ่งคำที่เต็มไปด้วยเครื่องแกง โดยทางร้านคัดเลือกเชฟที่มีประสบการณ์การทำร้านอาหารไทยมาทั่วทุกภูมิภาค เก็บเกี่ยวประสบการณ์ และสูตรอาหารพื้นบ้านจากคนในพื้นที่ คงคอนเซ็ปต์ทำเครื่องแกงจานต่อจานให้รสชาติเข้าถึงแบบเต็มคำTop list อาหารที่มาแล้วต้องทาน เริ่มจากเมนูอีสานที่เรียกว่า "ไก่ใต้น้ำ" เมนูหาทานยาก ใช้ไก่ส่วนสะโพกนึ่งกับเครื่องเทศ ด้วยเทคนิคแบบอีสานคือการนำน้ำไว้ด้านบน ซึ้งจะทำให้เนื้อไก่นุ่มและฉ่ำ หอมกลิ่นใบกะเพรา ราคา (160.-) มาต่อกันที่เมนูทางใต้ "ผัดสามเหม็น" ที่ใส่ทั้งสะตอ ชะอมและกระเทียมโทน ผัดกับวุ้นเส้นและกุ้งสด โดยทริคของที่ร้านจะเน้นผัดแห้ง ๆ เพื่อให้ได้กลิ่นคั่วกระทะแบบโบราณ ราคา (180.-)มาต่อกันที่ "แกงคั่วใบชะพลู" เป็นเมนูที่ทางร้านได้สูตรพิเศษจากคนท้องถิ่น เน้นเครื่องแกงโขลกละเอียด ใส่กรรเชียงปูกับเนื้อปูหน้าอก เพื่อเพิ่มเทคเจอร์ให้กับความเข้มข้นของน้ำแกง เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่อร่อยเด็ดเข้มข้นสุด ๆ ราคา (420.-)ที่สุดของความแซ่บต้องยกให้ "ยำคอหมูปลาร้าไข่เค็ม" เป็นเมนูน้องใหม่ของทางร้าน ใช้เทคนิคบ่างคอหมูจนหอม คลุกเคล้ากับน้ำยำสูตรเด็ดที่ใส่ไข่แดงเค็มนึ่งลงไปผสม และเพิ่มความหอมแซ่บนัวด้วยน้ำปลาร้าทำให้น้ำยำกลมกล่อมยิ่งขึ้น ราคา (160.-)มาต่อกันที่เมนูเด็ดของทางร้าน "พะโล้โบราณ" ถ้าใครอยากทานต้องรีบโทรถามก่อนเนื่องจากทางร้านใช้เวลาทำหลายวันและแต่ละรอบมีปริมานจำกัด เคล็ดลับคือร้านจะทำเครื่องพะโล้เอง โขลกสามเกลอ เคี่ยวน้ำตาลให้เปลี่ยนสี ซึ่งเป็นสูตรโบราณ และใส่ไข่เป็ดเพื่อเพิ่มความหนึบและนัวให้รสชาติกลมกล่อม ราคา (175.-)"แกงเหลืองปลากะพง" อีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาด  ทางร้านจะเลือกใช้เป็นเครื่องแกงสูตรจังหวัดกระบี่ ที่จะเน้นรสชาติเผ็ดนำ ที่จะทำให้รู้สึกถึงความถึงเครื่องเหมือนรสชาติแกงเหลืองออริจินิลทางภาคใต้จริง ๆ ราคา  (220.-)ร้านกินพริก ตั้งอยู่ที่ ถนนพุทธมณฑลสาย 3 เยื้องโรงเรียนสารสาสน์วิเทศธนบุรี  ร้านเปิด 11.00-22.00 น. (หยุดทุกวันอังคาร)ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : 09-8978-6555

Follow us on INSTAGRAM